เมื่อเวลา 13.00 น. สันที่ 10 ต.ค. ลานแถลงข่าวชั้น 1 กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ ผบก.น.9 พ.ต.อ.อำนาจ หาญชนะ ผกก.สน.แสมดำพ.ต.อ.ศรศักดิ์ ทองมี ผกก.สน.บางบอน พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ ภิญโญ ผกก.กก.สส.บกน.9 พ.ต.อ.ชัยรัตน์ บัวขม ผกก.สภ.บางปลาม้า พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.ดส. พ.ต.ท.วิทวัส บูรณะ รองผกก.ดส. พ.ต.ท.เนติ รุ่งฟ้าแสงอรุณ สว.กก.ดส. และฝ่ายสืบสวน สภ.บางปลาม้า กก.ดส. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมคดีที่น่าสนใจจำนวน 2 คดี จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ของกลาง ยาไอซ์ 132 กิโลกรัม เคตามีน 5 กิโลกรัม รถกระบะ 1 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า คดีแรก เป็นผลงานของ กก.ดส.บชน. และตำรวจสภ.บางปลาม้า ร่วมกันจับกุมตัวนายกิติพงษ์ หรือโม ขจัดภัย อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 119 หมู่2 ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท1 เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) บรรจุอยู่ในห่อพลาสติก( ห่อใบชา ) สีเขียวเข้ม จำนวน 100 ห่อสีเขียวอ่อน จำนวน 31 ห่อ ใส่ถุงดำ 1 ห่อ รวม 132 ห่อ น้ำหนักห่อละ 1 กิโลกรัม รวมน้ำหนักยาไอซ์ทั้งหมดประมาณ 132 กิโลกรัม วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประภท2 (คีตามีน) บรรจุอยู่ในห่อพลาสติกใบชาสีเขียว จำนวน 5 ห่อ รวมน้ำหนักดีตามีน 5 กิโลกรัม รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไมตี้เอ็กซ์ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ผธ 4316 ชลบุรี โดยสามารถจับกุมได้บริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำทำจีน ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯถนนสาย 340 ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี เมื่อเวลา 02.45 น. ( 8 ต.ค. ) ที่ผ่านมา พ.ต.อ.จิรกฤต กล่าวว่า สืบเนื่องจากการจับกุมเครือยาเสพติดเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญก่อนหน้านี้ กก.ดส.ได้ทำการสืบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่อง จนสืบทราบว่ายังมีเครือข่ายยาสพติดอีกเครือข่ายหนึ่ง ซึ่งเป็นเครือข่ายที่มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ ในย่านวุฒากาศ ตลิ่งชัน และถนนกาญจนาภิษก บางบัวทอง และพื้นที่ใกล้เคียง เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนสะกครอย ติดตามมาโดยตลอดจนพบว่า พฤติการณ์ของเครือข่ายนี้จะมีนาย อ. เป็นนายทุน และเป็นเจ้าของยาเสพติด อยู่เบื้องหลังคอยสั่งการให้ นายบอล ซึ่งอยู่ระหว่างติดตามตัว เป็นผู้สั่งการและหาลูกค้า จากนั้นจะโทรให้ผู้ต้องหา ไปรับยาเสพติดตามจุดต่างๆในย่านบางบัวทอง และนำไปส่งต่อให้กับเครือข่ายยาเสพติดตามคำสั่งของนายทุน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งผู้บังกับบัญชาเพื่อทราบ และ ทำการประชุมวางแผนเพื่อเข้าทำการจับกุม พ.ต.อ.จิรกฤต กล่าวต่อว่า ต่อมาวันที่ 7ต.ค. เวลาประมาณ 23.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส.ได้พบรถรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไมตี้เอ็กซ์ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียนผธ 4316 ชลบุรี ซึ่งเป็นรถที่เครือข่ายนี้ใช้ในการรับส่งยาเสพติดบริเวณถนนกาญจนาภิเษก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส.จึงได้ทำการสะกดรอยติดตามเพื่อเข้าทำการจับกุมจนไปถึงถนน 340 พื้นที่ สภ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี เจ้าหน้ที่ตำรวจจึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้ที่ตำรวจ และเข้าสกัดรถคันดังกล่าวแต่ผู้ต้องหาไม่ยอมหยุดรถและได้ขับหลบหนีจนถึงสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน ฝั่งขาเข้า กทม. ผู้ต้องหาได้จอดรถกลางสะพานแล้วกระโดดสะพานลงไปในแม่น้ำท่าจีนเพื่อหลบหนี เจ้าหน้ที่ตำรวจ กก.ดส.จึงได้ทำการประสานขอกำลังสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางปลาม้า ร่วมทำการปิดล้อม จนพบตัวผู้ต้องหาหลบอยู่ที่บริเวณตอม่อใต้สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน จึงเข้าควบคุมตัวไว้และจากการตรวจค้นรถยนต์กระบะ พบยาเสพติดของกลางอยู่ในรถจึงทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าทำมาแล้ว 6 ครั้ง โดยได้ค่าจ้างครั้งละ 3-5 หมื่นบาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา มียาสพติดให้โทษประเภท1เมทแอมเฟตามีน(ยาไอซ์) ไว้ในครอบครอง เพื่จำหน่ายโดยผิดกฎหมาย มีวัตถุออกฤิทธิ์ต่อจิตประสาทประภท2 (คีตามีน)ไว้ในความครอบครอง เพื่อจำหน่าย ก่อนควบคุมตัวส่ง บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีและสืบสวนหาผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า คดีที่สอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.9 พร้อมด้วยตำรวจสน.แสมดำ และสน.บางบอน ร่วมกันจับกุมตัวนายประกิจ หรือปลา วาประโคน อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2018 ซอยเอกชัย109 แขวงบางบอนใต้ เขตบางบอน กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ จ.530/2562 ลง 9 ตุลาคม 2562 โดยกล่าวหาว่า "พยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครอง บุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ" พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีชมพูขาว หมายทะเบียนป้ายเหลือง กขฉ 38 สมุทรปราการ ชุดที่ใส่ในวันเกิดเหตุ หมวกนิรภัยแบบเต็มใบสีขาวจำนวน 1 ใบ โดยจับกุมตัวได้ในซอยหมู่บ้านพระปิ่น 5 ถนนเอกชัย แขวงและเขตบางบอน กทม. พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวต่อว่า สืบเนื่องจากเวลาประมาณ 00.20 น. วันที่ 8 ต.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางบอนรับแจ้งคนร้ายก่อเหตุงัดตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารกสิกรไทย และ ตู้เอทีเอ็มของธนาคารธนชาติ ซอยบางบอน5 แยก 3 แขวงและเขตบางบอน กทม. ท้องที่สน.บางบอน และตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย กลางซอยหมู่บ้านพระปิ่น 5 ถนนเอกชัย แขวงและเขตบางบอน ท้องที่ สน.แสมดำ เมื่อได้รับรายงานเจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายประกิจ ซึ่งมีอาชีพขับรถ จยย.รับจ้าง อยู่ที่หมู่บ้านพระปิ่น 5 สวมเสื้อเบอร์ 10 จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลติดตามไปจับกุมตัวได้ที่บ้านพักพร้อมของกลางชุดที่ใส่ก่อเหตุ เบื้องต้นสอบสวนให้การว่าทำเพียงคนเดียว ส่วนที่กล่าวอ้างว่ามีอาการป่วยเป็นเบาหวาน ต้องใช้อินซูลินที่ฉีดเข้าไปในร่างกายนั้น ในส่วนนี้ก็ต้องให้แพทย์ตรวจว่ามีอาการตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างหรือไม่ ทั้งนี้ยังไม่พบว่ามีประวัติการก่อเหตุในท้องที่อื่น อย่างไรก็ตามฝากประชาสัมพันธ์หากมีผู้เสียหายรายอื่นๆที่คาดว่าถูกคนร้ายรายนี้ก่อเหตุสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที