ระบบอัตโนมัติเปิดเดินเครื่อง 24 ชม. สูง 4 เมตร ใช้หลักการทำงานของพัดลมดูดอากาศภายนอกเข้ามาผ่านแผ่นกรองและปล่อยอากาศดีออกด้านบน โดยการสนับสนุนของม.เกษตรฯ-ภาคเอกชน พร้อมเก็บข้อมูลวิเคราะห์ประสิทธิภาพ ผู้ว่าฯอัศวินชวนห้างยักษ์-เอกชนรายใหญ่ร่วมติดตั้ง ย้ำวิธีนี้เป็นเพียงมาตรการเสริม ด้วยทุกภาคส่วนต้องช่วยกันลดมลพิษ กว่า 50% เกิดจากท่อไอเสีย-การเผาไหม้ เมื่อวันที่ 10 ต.ค.62 พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.ได้ตรวจเยี่ยมการติดตั้งและเปิดเดินเครื่องหอสูงฟอกอากาศ บริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องในการลดปริมาณฝุ่นและมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 ผู้ว่าฯกทม.กล่าวว่า กทม.ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และภาคเอกชนทดลองติดตั้งหอสูงฟอกอากาศ 1 ชุด บริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ด้านถนนราชดำริ ตรงข้ามโรงแรมอโนมาแกรนด์ กรุงเทพฯ เขตปทุมวัน เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานในการลดปัญหาฝุ่นและมลพิษจาก PM 2.5 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในมาตรการเสริมป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นและมลพิษทางอากาศ โดยได้ติดตั้งเครื่องเมื่อวันที่ 9 ต.ค.62 และเริ่มเปิดเดินเครื่องตั้งแต่ 06.00 น. ที่ผ่านมา จะเปิดเดินเครื่อง 24 ชั่วโมง สำหรับหอสูงฟอกอากาศ เป็นเสาสูง 4 เมตร กว้าง 1.5 เมตร น้ำหนักประมาณ 200 กิโลกรัม ใช้หลักการทำงานของพัดลมขนาดใหญ่ที่มีปริมาณลมสูง (Air Volume) และกำลังดึงลมสูง (Air Pressure) ดึงอากาศให้ไหลผ่านแผ่นกรองฝุ่น 2 ชั้น โดยใช้แผ่นกรองชนิด HEPA Fitter ขนาด 1 ไมครอน และปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกทางด้านบน มีอัตราสร้างอากาศบริสุทธิ์ไม่น้อยกว่า 17,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ครอบคลุมพื้นที่ไม่น้อยกว่า 1,000 ตารางเมตร เครื่องดังกล่าวจะทำงานด้วยระบบอัตโนมัติ โดยใช้กำลังไฟฟ้า 3.5 กิโลวัตต์ พร้อมกันนี้ ม.เกษตรศาสตร์ ได้จัดเจ้าหน้าที่ร่วมเก็บข้อมูลปริมาณความเข้มข้นของฝุ่น PM2.5 ซึ่งในช่วงเช้าก่อนเปิดเครื่องฟอกอากาศ วัดค่าได้ 31 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในช่วงที่เปิดเดินเครื่องช่วงสายวัดค่าได้ 28 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยจะทดลอง 2-3 เดือน ประเมินผลเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะสั้น 24 ชั่วโมง ระยะกลาง 3 วัน และระยะยาว 30 วัน เพื่อนำข้อมูลวิเคราะห์และเปรียบเทียบความเข้มข้นของฝุ่นและมลพิษ รวมถึงประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องว่าสามารถลดปริมาณฝุ่น PM2.5 ได้หรือไม่ นอกจากนี้ ได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้ประกอบการค้าหรือศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ติดต่อม.กษตรศาสตร์ เพื่อซื้อเครื่องหอสูงฟอกอากาศมาติดตั้งบริเวณศูนย์การค้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนที่มาใช้บริการ โดยกทม.จะช่วยดูแลบำรุงรักษา อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าฯกล่าวว่า การติดตั้งหอสูงฟอกอากาศเป็นเพียงมาตรการเสริม ควบคู่ไปกับมาตรการต่างๆ ที่กทม.ดำเนินการอยู่ ซึ่งการแก้ปัญหามลพิษทางอากาศจะต้องได้รับความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงประชาชน โดยมลพิษทางอากาศ 54% เป็นคาร์บอนไดออกไซด์ ที่เกิดจากท่อไอเสียและการเผาไหม้ กทม.จึงขอเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมมือ เช่น ลดใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ใช้บริการขนส่งมวลชนมากขึ้น บำรุงรักษาเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพดีไม่ก่อให้เกิดมลพิษ ปลูกต้นไม้ป้องกันฝุ่นและดูดซับมลพิษ ทั้งนี้ สามารถติดตามผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบ Real Time ได้ทางเว็บไซต์ www.bangkokairquality.com และเฟซบุ๊ค กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กทม.