วันที่ 6 ต.ค. ที่ร้านกาแฟศูนย์เรียนรู้ประชาธิปไตย ต.ทุ่งโพธิ์ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการส่งผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ว่า หลายคนตั้งคำถามมายังพรรคว่าประชาธิปัตย์จะส่งใครลงเเข่งขัน ภายหลังนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ประกาศตัวชัดเจนว่า จะลงสมัครผู้ว่ากทม.ในนามอิสระ ซึ่งส่วนตัวยืนยันพรรคประชาธิปัตย์ส่งคนลงสมัครทุกสมัย เเพ้ชนะเป็นเรื่องกติกาประชาธิปไตย รอบนี้จึงไม่มีการหลีกทางหรือฮั๊วกับพรรคไหนเด็ดขาด ส่วนตัวมองว่า นายชัชชาติถือเป็นตัวเต็ง ถ้าถามว่าพรรคจะส่งใครสู้เพื่อให้เทียบเคียงกับนายชัชชาติได้บ้างนั้น มองว่าคนที่จะสมัครผู้ว่ากทม.ได้รับชัยชนะมีเพียงคนเดียว คือนายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรมว.คลัง เพราะมีคุณสมบัติเหมาะหลายประการ คือ 1.คุณวุฒิ วัยวุฒิ ชาติวุฒิ มีพร้อม อายุ 50 กว่าปี ถือว่าพองาม การศึกษาดีเป็นนักเรียนนอก ชาติวุฒิมาจากครอบครัวข้าราชการชั้นสูงทำงานให้ชาติบ้านเมือง 2.โกอินเตอร์เหมาะกับตำแหน่งผู้ว่ากทม.ที่ต้องต้อนรับเเขกบ้านเเขกเมือง 3.ผ่านงานบริหารจากองค์กรใหญ่มาเเล้วทั้งด้านเอกชน ราชการและการเมือง ผ่านประสบการณ์ระดับประเทศมาเเล้วคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 4.ได้รับการยอมรับจากวงการเอกชนและภาคธุรกิจ 5.นายกรณ์เป็นตัวเเทนของคนรุ่นใหม่ และคนรุ่นใหม่รับได้ นายเทพไท กล่าวอีกว่า แต่สิ่งที่นายกรณ์เหนือกว่านายชัชชาติคือ นายกรณ์สัมผัสประชาชนในฐานะเคยเป็นส.ส.กทม.มาเเล้ว โดยยังไต่เต้าจากส.ส.จนได้เป็นรมว.คลัง ขณะที่นายชัชชาติไต่เต้าเป็นรมว.คมนาคม จากการไปหยิบฉวยมาหรือเชิญมา หรือการเป็นนิมินีให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯดังนั้นหนทางเข้าสู่ตำแหน่งบริหารในฐานะเจ้ากระทรวงจึงเเตกต่างกัน สุดท้ายอุดมการณ์นายกรณ์ก็ชัดเจน คือสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนนายชัชชาติอยู่ในภาคเอกชน นายทักษิณเชิญ มาเป็นรัฐมนตรี มาจนถึงล่าสุดถูกเสนอชื่อเป็นหนึงในเเคนดิเดตบัญชีรายชื่อนายกฯของพรรคเพื่อไทย มาวันนี้นายชัชชาติประกาศลงอิสระไม่กล้าลงในนามพรรคเพื่อไทย ต้องถามเรื่องอุดมการณ์และจุดยืนทางการเมืองต่อนายชัชชาติด้วย ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้นายกรณ์จึงเหมาะสมที่สุดในตำแหน่งผู้ว่ากทม.และเป็นบุคคลเดียวที่จะชนะผู้สมัครที่ประกาศตัวมาเเล้วทั้งหมด