ต้องหาข้อมูล เลือกร้านได้มาตรฐาน ไม่เช่นนั้นอาจได้ภาพสามมิติเป็นแผลเป็นรอยนูนน่าเกลียด และเสี่ยงติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส ตับอักเสบ เอชไอวี โดยเฉพาะบริเวณผิวบอบบางยิ่งอันตราย ชี้ตอนสัก ง่าย แต่เอาออกยากและค่าใช้จ่ายแพงมาก นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จากกรณีการเสนอข่าวเรื่องเตือนจากแพทย์ผิวหนัง สำหรับคนที่ไปสักผิวหนังแล้วเลือกร้านไม่ดี อาจได้ของแถมเป็นภาพสามมิติ มีรอยนูนด้วยนั้น แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่มีความพึงพอใจหลงใหลในความสวยงามของสีสันและลวดลายของการสัก ยังไม่ตระหนักถึงอันตรายจากการสักที่จะมีผลต่อร่างกาย เช่น อันตรายจากการแพ้สีที่ใช้ เครื่องมือที่ใช้ไม่สะอาดเพียงพอ ตลอดจนการดูแลตนเองหลังการสัก เกิดผลข้างเคียงอื่นๆ ทั้งทางผิวหนังและระบบต่างๆ ของร่างกาย ภาวะแทรกซ้อนของการสักที่พบบ่อย คือ อาจมีโอกาสติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส จากเข็มที่ไม่สะอาด กระบวนการดูแลแผลหลังการสัก โดยเชื้อโรคที่พบบ่อย มีทั้ง เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส เช่น ไวรัสตับอักเสบบี/ซี เชื้อ HIV เป็นต้น พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การสักสีลงไปในผิวจะทำให้ผิวหนังเกิดบาดแผลและมีเลือดออก มีความเสี่ยงเกิดปัญหาแทรกซ้อน เช่น ติดเชื้อ แพ้สีย้อม เกิดแผลเป็นนูน (Keloid) หรือเปลี่ยนใจอยากลบออกในภายหลัง ซึ่งการติดเชื้อจากการสักพบมากขึ้น เนื่องจากนิยมสักในตำแหน่งผิวหนังที่บอบบางเสี่ยงติดเชื้อ และการดูแลแผลหลังการสักยุ่งยากมากขึ้น เช่น บริเวณริมฝีปาก หรือบริเวณอวัยวะเพศ รวมถึงอาจเกิดแผลเป็นจากการติดเชื้อหรือติดเชื้อในกระแสเลือดได้ ผอ.สถาบันโรคผิวหนังแนะนำว่า ก่อนตัดสินใจสัก ควรคำนึงถึงผลดีผลเสียที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งหาข้อมูลสถานประกอบการที่เชื่อถือได้ก่อนรับบริการ เพราะเมื่อสักไปแล้ว เกิดไม่ชอบใจรูปที่สักไว้ภายหลัง และต้องการลบรอยสักออกจะต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายอีกมาก โดยค่าใช้จ่ายลบรอยสักมากกว่าการสักหลายเท่า เช่น เราอาจจะเสียค่าสักเพียง 1,000 บาท แต่การลบรอยสักอาจเสียค่าใช้จ่ายแพงถึง 5,000 – 20,000 บาท การรักษาส่วนใหญ่ต้องทำหลายครั้งอย่างต่อเนื่องทำให้เสียเวลาเสียเงิน ที่สำคัญ การลบรอยสักโดยใช้เลเซอร์ ควรได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ผู้ที่ต้องการสักหรือลบรอยสัก ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เลือกสถานบริการที่ได้มาตรฐาน ภาพอ้างอิงจาก www.facebook.com/niwatp