อดีตกำกันผู้ใหญ่บ้านบนเกาะสมุย มีเฮ หลังเข้าร่วมประชุม เพื่อปรึกษาหารือ แนวทางการแก้ไข พิจารณาแก้กฎหมายพระราชบัญญัติปกครองส่วนท้องถิ่นยกฐานะเทศบาลนคร พร้อมเสนอปลดล็อก เพื่อให้คงอยู่กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในอำเภอเกาะสมุย หลังจากเกาะสมุย ไม่มีกำนันผู้ใหญ่บ้านมา 10 ปี เพื่อเข้าถึงประชาชนอย่างแท้จริง เตรียมเดินทางตบเท้าเข้าพบบิ๊กเจ้ากระทรวงมหาดไทยในเร็วๆนี้ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมชั้นสามอาคารเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ที่ว่าการอำเภอเกาะสมุย ว่าที่ร้อยตรีกิตติภพ รอดดอน นายอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธาน ในการประชุม พร้อมเชิญ อดีตกำนันผู้ใหญ่บ้าน ในอำเภอเกาะสมุย มาเพื่อร่วมประชุม และปรึกษาหารือ ในเรื่อง อำเภอเกาะสมุย เป็นราชการส่วนภูมิภาค เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี มี 7 ตำบล 39 หมู่บ้าน เป็นองค์กรปกครองส่วนท่องถิ่นทั้งอำเภอ เทศบาลเมืองเกาะสมุย  ในปัจจุบัญได้ยฐนะเป็นเทศบาลนครเกาะสมุย ทำให้ฐานะของ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมดฐานะลงไป ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2552  ตามพระราชบัญญัติเทศบาล ซึ่งตอนนี้อำเภอเกาะสมุยจึงเป็นเขตปลอด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนันและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แม้ว่าจะมีพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ (ฉบับที่ 12) พ.ศ.2552 เกิดขึ้น ก็ดูเหมือนว่า ฐานะของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนันและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ก็ไม่สามารถหวนคืนชีพมาได้ ทั้งที่อำเภอเกาะสมุยยังมีความจำเป็นที่ต้องใช้บุคลลเหล่านี้ เป็นตัวแทนของราษฎรเกี่ยวกับการร้องทุกข์ ความเดือดร้อนของราษฎรเพื่อนำเสนอต่อส่วนราชการ โดยในที่ประชุม กลุ่มอดีตกำนัน เช่นนายสง่า พงษ์ฉบับนภา เลขธิการสนมคมกำนันผู้ใหญ่อำเภอเกาะสมุย นายณัฐดนัย หิมทอง อดีตกำนัน อดีตกำนัน และนายเลิศศักดิ์ เจริญสุข อดีตผู้ใหญ่บ้าน ที่มาร่วมประชุมเพื่อปรึกษาหารือ บุคคลหลายฝ่ายต่างมีความเห็นร่วมกันว่า อำเภอเกาะสมุย ถึงแม้เป็นเขตเทศบาลนครเกาะสมุยก็จริง แต่ไม่ได้มีความเจริญครอบคลุมทุกพื้นที่ บางส่วนยังเป็นชนบท สำหรับพื้นที่ที่มีความเจริญ สังคมก็มีความหลากหลายสูง การเคลื่อนย้ายประชากรมีอยู่ตลอดเวลา ปัญหาอาชญากรรม ปัญหายาเสพติด ความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงยังมีความจำเป็นที่จะต้องอาศัยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในเขตอำเภอ ที่จะได้ทำควบคู่กับเจ้าหน้าที่ของรัฐมาตั้งแต่อดีต ส่งผลให้สังคมเกาะสมุยมีความสงบสุขมาโดยตลอด ประกอบกับเกาะสมุยเป็นเมืองท่องเที่ยว ซึ่งแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไม่น้อยกว่าปีละหลายล้านคน ก็ได้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คอยดูแลความปลอดภัยร่วมกับตำรวจ โดยนายสง่า พงศ์ฉบับนภา อดีตกำนัน ตำบลมะเร็ต และ เลขานุการสมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านอำเภอเกาะสมุย กล่าวว่า ในฐานะที่ตนทำงานเป็นกำนันมาหลายปี ทำให้มีความใกล้ชิดและเข้าถึงชาวบ้านในหมู่บ้านอย่างทั่วถึง แต่เมื่อมีการยกเลิกกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ในอำเภอเกาะสมุย ทำให้การเข้าถึง และการแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นมีความยากลำบาก และไม่ทั่วถึง จึงขอเรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้กับมาพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง เพราะเกาะสมุยมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ควรมีกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ทำหน้าที่เป็นตัวแทนให้กับชาวบ้านต่อไป ซึ่งโดยสรุปจะเห็นได้ว่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้านมีหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขโดยแท้จริง สร้างความอบอุ่นให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในเกาะสมุย หากไม่มีกำนันผู้ใหญ่บ้าน ก็จะมีผลกระทบกับปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เช่นดูแลโครงการพระราชดำริ ป่าไม้ทะเล และอื่นๆ ประชาชนในพื้นที่อำเภอเกาะสมุยรวมทั้ง ภาคเอกชนต่างๆ ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของการที่ต้องมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้านไว้ในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย เพราะเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมากบวกกับยังมีปัญหาอื่นๆอยู่มาก เช่น ปัญหาวัยรุ่น ปัญหาคนต่างด้าว ปัญหาเกี่ยวกับอาชญากรรมที่แฝงมาในหลายรูปแบบ ซึ่งต้องอาศัยกลไกของกำนันผู้ใหญ่บ้าน ที่เป็นตัวแทนกึ่งข้าราชการกึ่งประชาชนในการที่ จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพราะกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นคนในท้องที่เข้าใจสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ของประชาชน และหากการทำหนังสือสอบถามความคิดเห็นความต้องการของพี่น้องประชนชน ชาวเกาะสมุย ว่าจะต้องมีกำนันและผู้ใหญ่บ้านให้มีต่อไป ทางกลุ่มสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อำเภอเกาะสมุย จะนำหนังสือเดินมางตบเท้าเข้าพบ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ทันที นายสง่า กล่าว โดยการประชุมในครั้งนี้ ได้สอดคล้องกับที่ "บิ๊กป๊อก"พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้ประชุมมอบนโยบายของกระทรวงมหาดไทยแก้ผู้บริหาร และ ผู้ว่าราชการจังหวัด ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ เมื่อวันที่ 29 สิหาคม 2562 โดยกล่าวว่า รัฐบาลกำลัง จะดำเนินการ แก้กฎหมายยกฐานะองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อคืน บุคคลากร กำนันผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน แพทย์ประจำตำบล กว่า 700 ตำแหน่งทั่วไทย.//