เศรษฐกิจโลกถดถอย-บาทแข็งโป๊ก “กกร.”ปรับลดประมาณการณ์เศรษฐกิจปีนี้เหลือร้อยละ 2.7-3 ส่งออกติดลบร้อยละ 2-0 ชี้มาตรการ“ชิมช้อปใช้”ส่งผลดีเงินสะพัด ระบุถ้าขยายเวลาเลยปีใหม่ ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.)ว่า ภายใต้สถานการณ์ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจหลักในโลก ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ยังคงยืดเยื้อ ประกอบกับยังมีประเด็น Brexit และทิศทางเงินบาทที่แข็งค่า กกร.ปรับประมาณการการเติบโตเศรษฐกิจไทย(จีดีพี) ปีนี้ลง จากเดิมคาดการณ์เดือนก.ค.ที่ผ่านมาว่าจะโตร้อยละ 2.9-3.3 ปรับประมาณการณ์ใหม่ลดลงเดือนต.ค.62 เหลือโตเพียงร้อยละ 2.7-3 ขณะที่การส่งออกก็ปรับลดลงเช่นกัน จากเดิมประเมินเดือนก.ค.ที่ผ่านมาว่า จะโตร้อยละ -1 ถึง 1 ปรับใหม่เดือนต.ค.62 เป็นโตร้อยละ –2 ถึง 0 ด้านอัตราเงินเฟ้อไม่ปรับประมาณการจากที่ประเมินเดือนก.ค.62 โดยยังคงคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 0.8-1.2 โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจเดือนก.ค.และเดือนส.ค.62 บ่งชี้ว่าทิศทางเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3/2562 ยังอยู่ในภาวะที่อ่อนแรงอย่างต่อเนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรก โดยมีปัจจัยถ่วงหลักจากความเสี่ยงในภาคต่างประเทศ ทั้งเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ผลจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน และการแข็งค่าของเงินบาทฉุดให้การส่งออกยังคงหดตัวเป็นวงกว้างทั้งในรายการสินค้าและตลาดส่งออกหลัก กระทบต่อภาคการผลิต ขณะเดียวกันแรงขับเคลื่อนภายในประเทศแผ่วตัวลงทั้งการบริโภคและการลงทุนมีเพียงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ขยายตัวดีขึ้น ส่วนหนึ่งจากผลของฐานที่ต่ำในช่วงเดียวกันปีก่อน อย่างไรก็ตาม กกร.คาดหวังที่จะเห็นมาตรการเสริมจากภาครัฐเพิ่มเติม นอกเหนือไปจากการเร่งผลักดันกรอบงบประมาณรายจ่ายปี 2563 ทั้งนโยบายการเงินและนโยบายการคลัง เพื่อรับมือกับความท้าทาย โดยเฉพาะปัจจัยจากต่างประเทศ อีกทั้งเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนควรมีการเสนอราคาเป็นสกุลเงินบาทหรือสกุลเงินท้องถิ่น ส่วนรัฐบาลจะขยายมาตรการชิมช้อปใช้นั้น เป็นเรื่องที่ดี หากขยายเลยปีใหม่ ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ สำหรับเงิน 1,000 บาท ที่โอนให้ประชาชนระยะแรก จำนวน 10 ล้านคนต้องรอประเมินผลสักระยะก่อน แต่คาดว่าจะมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจประมาณ 20,000-30,000 ล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจร้อยละ 0.1-1.2 สำหรับผลกระทบจากน้ำท่วม คาดว่าจะสร้างความเสียหายและกระทบต่อเศรษฐกิจ ประมาณ 20,000-25,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะมีผลกระทบจากความเสียหายของบ้านเรือนและพื้นที่เกษตร