เพิ่มอีก 30 เครื่องตรวจวัด PM2.5 ปลายปีนี้ติดครบ นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกทม.เปิดเผยว่า ตามที่สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) มีค่าเกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ของกทม. จึงกำชับสำนักสิ่งแวดล้อมติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด พร้อมประสานสำนักงานเขตต่าง ๆ ฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อลดผลกระทบ ขณะที่ปัญหาฝุ่นละอองยังมีสาเหตุหลักมาจากรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล จึงกำชับให้สำนักงานเขตดำเนินการตามข้อสั่งการของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. โดยให้หน่วยงานของกทม.ลดใช้รถเครื่องยนต์ดีเซล โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน ในส่วนของสำนักงานเขตให้เก็บขนมูลฝอยในถนนสายหลักและสายรองให้แล้วเสร็จก่อน 04.00 น. ของทุกวัน ปัจจุบัน สำนักสิ่งแวดล้อมมีเครื่องตรวจวัด PM2.5 ติดตั้งใน 24 เขต ได้แก่ เขตสัมพันธวงศ์ พญาไท วังทองหลาง ปทุมวัน บางรัก บางคอแหลม ยานนาวา จตุจักร บางกะปิ ลาดกระบัง ธนบุรี คลองสาน บางกอกน้อย ภาษีเจริญ บางเขน บางพลัด บางขุนเทียน พระนคร สาทร คลองเตย บางซื่อ หลักสี่ บึงกุ่ม และราชเทวี ซึ่งสามารถตรวจวัดได้แม่นยำและรวดเร็ว ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 อย่างเป็นปัจจุบัน (Real Time)  ได้ทางเว็บไซต์www.bangkokairquality.com และ www.air4bangkok.com และเฟซบุ๊กเพจ“กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ จะมีการติดตั้งเครื่องตรวจวัดฝุ่นละออง PM2.5 เพิ่มเติมอีก 30 เครื่อง ประกอบด้วย เครื่องตรวจวัดแบบตั้งคู่เสาเหล็ก ซึ่งจะนำไปติดตั้งคู่กับเครื่องปัจจุบันซึ่งตรวจวัดได้เฉพาะฝุ่นละออง PM10 จำนวน 23 เครื่อง เครื่องตรวจวัดแบบตั้งคู่เสาเหล็กที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ 4 เครื่อง และเครื่องตรวจวัดฝุ่นละออง PM2.5 แบบ Analyzer สำหรับสถานีคอนเทนเนอร์ 3 สถานี ในพื้นที่เขตดินแดง เขตราษฎร์บูรณะ และเขตพระโขนง 3 เครื่อง ซึ่งคาดว่าจะติดตั้งได้ครบทั้งหมดภายในเดือนธ.ค.62 นอกจากนี้ กทม.ได้กำหนดแผนฉีดพ่นละอองน้ำ ล้างทำความสะอาดบริเวณถนนที่มีค่าฝุ่นละอองสูง เพื่อบรรเทาปัญหามลพิษทางอากาศแก่ประชาชน โดยจะหมุนเวียนไปตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วกทม. และเพิ่มความถี่ในการล้างถนนอย่างต่อเนื่อง