วันที่ 30 กย.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่แนวชายแดนและเข้าสู่ตอนใน ตำรวจภูธรภาค 5 ,ชุด ศอปส.ภ.5, ขยายผลคดียาเสพติดศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่,สภ.เมืองเชียงใหม่ จับกุมนายทัศน์พลหรือเอ๋ ชัยแก้ว อายุ 43 ปี ที่อยู่ 108/1 ม.8 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จว.เชียงราย นายอาทิตย์หรือแซ ไชยวรศิลป์ อายุ 30 ปี ที่อยู่ 171 ม.5 ต.โป่งผา อ.แม่สาย จว.เชียงราย นายธนดลหรือ เต้ย วรสูตร อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 ซ.นิมิตใหม่ 29 แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กทม.นายชาตรีหรือตรี มาดี อายุ 17 ปี 4 ที่อยู่บ้านเลขที่ 0/89 ม.1 ต.ศรีเมืองชุม อ.แม่สาย จว.เชียงราย ในข้อหา“ร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1(เมทแอมเฟตามีน)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (เคตามีน)ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวนทั้งหมดประมาณ 592,000 เม็ด และ เคตามีนรวมสิ่งห่อหุ้มน้ำหนักรวมประมาณ 101 กรัม จับกุมได้ที่บริเวณ ริมถนนราชมรรคา ถ.ราชมรรคา ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สืบเนื่องพฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดประจำภาค 5 และ กก.สส.4 บก.สส.ภ.5 วืบมราบว่ามีกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด ลักลอบนำยาเสพติดมาส่งมอบให้กันในพื้นที่ อ.เมือง จว.เชียงใหม่ เพื่อที่จะลักลอบลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ชั้นในของประเทศ กระทั่ง พบรถยนต์เก๋ง มาสด้า 3 สีขาว ทะเบียน กษ 1206 เชียงราย ได้วิ่งผ่านด่านตรวจ จาก จว.เชียงราย เข้ามาในพื้นที่เชียงใหม่ และมาพบรถยนต์ตู้บรรทุก ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ซึ่งลักษณะเป็นรถมูลนิธิกู้ภัย ติดสติ๊กเกอร์และมีไฟสัญญาณฉุกเฉิน ระบุ มูลนิธิพระครูพิทักษ์พรหมวิหาร แล้วขับรถยนต์ออกตามรถยนต์เก๋งมาสด้า สีขาว กษ 1206 เชียงราย ซึ่งขับนำหน้า ไปบนถนนคูเมืองเชียงใหม่รอบใน เมื่อแล่นไปถึง ถนนราชมรรคา ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ รถทั้งสองคัน ได้เลี้ยวซ้ายเข้าไปใน ถนนราชมรรคา ฯ ได้จอดรถชิดด้านซ้ายของถนน บริเวณที่เกิดเหตุ โดยรถยนต์เก๋งจอดนำหน้าและรถยนต์ตู้บรรทุกจอดต่อท้าย เมื่อรถยนต์จอดสนิท ชายทั้ง 4 ได้ลงจากรถยนต์เปิดประตูรถยนต์ทั้งสองคัน ช่วยกันยกกระเป๋าและสิ่งของต้องสงสัย จากรถยนต์ตู้บรรทุก มาใส่รถยนต์เก๋ง สอบสวน ทั้ง 4 รายได้ยอมรับ ว่า สิ่งของที่ตรวจพบ คือยาเสพติด(เมทแอมเฟตามีน) และ (เคตามีน) ที่ทั้งหมดร่วมกันลักลอบนำมาจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อที่จะนำลักลอบเข้าไปพื้นที่ กทม.และให้การว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายอาร์ม ไม่ทราบชื่อสกุลจริง เป็นคนไทย รู้จักกันมาก่อนได้ติดต่อกันทางโทรศัพท์ ว่าจ้างให้ ลักลอบขนยาเสพติด จาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย ไปส่งให้นายอาร์มฯ ที่กรุงเทพฯ ส่วนสถานที่นายอาร์มฯ จะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง โดยจะได้รับค่าจ้างเป็นเงิน ในราคาเม็ดละ 2.50 บาท (จำนวน 5 แสนเม็ดในราคา 1,250,000 บาท) จึงได้แบ่งหน้าที่กันทำโดยในการติดต่อกับนายอาร์ม ผู้สั่งซื้อยาเสพติด ติดต่อกับเจ้าของยาเสพติดอาศัยอยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ชื่อนายอู๋ ไม่ทราบชื่อสกุลจริง เป็นคนไทยจังหวัดอยุธยา ไปอาศัยอยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ติดต่อผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ชื่อ “มังกรคู่”ที่รู้จักกับนายอู๋ เพราะเคยเป็นลูกค้าซื้อไส้กรอกและรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี (นายอู๋ มักจะข้ามไปมาระหว่างประเทศไทยและเพื่อนบ้านต่อมาหลังจากนายอาร์มฯและนายอู๋ฯ ได้ตกลงซื้อขายยาเสพติดกันแล้ว ได้ให้ผู้ต้องหา ไปรับเอายาเสพติดของกลางดังกล่าวข้างต้น ที่บ้านเวียงหอม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งมีผู้นำมาให้และต่อมา หลังจากได้รับยาเสพติดดังกล่าว เพื่อลักลอบขนส่งต่อลงไปให้นายอาร์มฯ อีกครั้งหนึ่ง โดยว่าจ้างในราคา 100,000 บาท โดยจ่ายให้ไปล่วงหน้า 6,000 บาทเป็นค่าน้ำมันรถ และจะจ่ายให้ทั้งหมดเมื่อได้รับเงินค่าจ้างจากนายอาร์มแล้ว ให้การว่า ได้รับการติดต่อจาก เพื่อนรุ่นพี่ในมูลนิธิกู้ภัย ฯ ที่พวกตนทำงานอยู่ ชักชวนให้รับงานขนยาเสพติด โดยใช้รถตู้บรรทุกของมูลนิธิ รับขนยาเสพติดจากพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อนำไปส่งที่ อ.เมือง จว.เชียงใหม่ บรรทุกยาเสพติด ขับตามมา โดยใช้เส้นทาง แม่สาย- แม่จัน-แม่สรวย-เวียงป่าเป้า-ดอยสะเก็ด ตรงเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ โดยนัดพบกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยว เจียงลูกชิ้นปลา ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จว.เชียงใหม่ จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุม.