“บีซี” พร็อพเพอร์ตี้ เอเจนท์ชั้นนำในเครือเอพี ไทยแลนด์ กรุ๊ป ตั้งเป้าขึ้นแท่นหนึ่งเดียวในไทยที่ให้บริการครบจบในที่เดียว THE 1st DIGITAL PROPERTY AGENT ECOSYSTEM ชูจุดแข็งด้วยบิ๊กดาต้าหลังบ้าน หนึ่งในตัวช่วยชี้เทรนด์การลงทุนในอนาคต เชื่อมั่นจะตอบโจทย์ทุกความต้องการ รองรับลูกค้าทุกราย ทั้งผู้ซื้อ ผู้ฝากขาย และปล่อยเช่า พร้อมผนึก 10 พันธมิตรดิจิตอลแพลทฟอร์มอสังหาฯ ทั้งไทย และต่างชาติ มุ่งสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับสินทรัพย์ทุกรูปแบบ นายขยล ตันติชาติวัฒน์ ผู้อำนวยการ บริษัท บางกอกซิตี้สมาร์ท จำกัด เปิดเผยว่า บีซี ต้องการสานต่อพันธกิจหลักของเอพี ไทยแลนด์ ในการสร้างสรรค์โลกแห่งคุณภาพชีวิตที่ดี ช่วยเติมเต็มคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคมได้มากขึ้น และจากกระแสดิจิตอลดิสรัปชั่นได้ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ทั้งในมุมพฤติกรรมผู้บริโภค หรือโมเดลธุรกิจ ดังนั้น บริษัทจึงปรับทิศทางการดำเนินงาน มุ่งสู่การเป็น “พร็อพเพอร์ตี้ เอเจนท์ หนึ่งเดียวในประเทศไทยที่พร้อมให้บริการครบจบในที่เดียว "(THE 1st DIGITAL PROPERTY AGENT ECOSYSTEM) เป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก แตกต่างด้วยระบบนิเวศในการบริหารจัดการ การซื้อ ขาย ปล่อยเช่า ให้คำปรึกษาด้านการลงทุนผ่านระบบดิจิตอลที่ครบวงจร พร้อมผนึกกำลังกับ 10 พันธมิตรทั้งไทย และต่างชาติ เพื่อสร้างโอกาสและผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับสินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ทุกรูปแบบ ภายใต้การบริหารจัดการของ BC อย่างต่อเนื่อง "ด้วยประสบการณ์ในธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้ เอเจนท์กว่า 14 ปีของเรา ทำให้เรามีดาต้าในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลในเรื่องดีมานด์ ซัพพลาย หรืออัตราค่าเช่าในแต่ละปี ซึ่งบิ๊กดาต้าเหล่านี้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ BC ของเราแตกต่าง ประกอบกับแนวโน้มของคนรุ่นใหม่ ที่เรื่องดิจิตอลกลายเป็นเรื่องพื้นฐานของการดำเนินชีวิต รวมถึงความต้องการในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่น่าเชื่อถือได้ด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุน ดังนั้น BC จึงปรับแนวทางการทำงานให้เข้มข้นมากขึ้น ด้วยการพัฒนาแพลทฟอร์มออนไลน์อัจฉริยะให้ครบจบในทีเดียว พร้อมทั้งร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อสร้างโอกาสในการขายและสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับผู้ที่เข้ามาใช้บริการ” นายขยล กล่าว ทิศทางการดำเนินงานเพื่อนำพา BC ไปสู่การเป็น THE 1st DIGITAL PROPERTY AGENT ECOSYSTEM “พร็อพเพอร์ตี้ เอเจนท์ หนึ่งเดียวในประเทศไทยที่พร้อมให้บริการครบจบในที่เดียว ประกอบด้วย 1. การเป็นศูนย์กลางฐานข้อมูลอสังหาฯ ขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อผู้ซื้อ-ผู้ขาย-ผู้เช่า เข้ากับระบบสินทรัพย์ที่ BC บริหารจัดการอยู่ทุกรูปแบบ ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม มูลค่าสินทรัพย์รวมแล้วกว่า 144,000 ล้านบาท ผ่าน BC Intelligent Platform ที่แสดงผลอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดในรูปแบบ 7 ทำเลเด่นทั่วกรุงเทพฯ เพื่อง่ายต่อการค้นหาที่อยู่อาศัยในทำเลที่ต้องการ รวมถึงฟังก์ชั่น BC Membership Dashboard ที่เอื้อให้ผู้ฝากขาย-ฝากเช่า สามารถบริหารจัดการพอร์ตสินทรัพย์ด้วยตนเองได้แบบ real time 2.การสร้างโอกาสทางธุรกิจและผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับสินทรัพย์ทุกรายการที่ใช้บริการผ่าน BC ด้วยการผสานกำลังกับ 10 พันธมิตรดิจิตอลแพลทฟอร์มอสังหาฯ ชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ ซึ่งเป็นการสร้างคอมมูนิตี้ของการซื้อขายเช่า อสังหาฯ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เชื่อมต่อข้อมูลทั้งไทย เอเชีย และยุโรป เข้าไว้ด้วยกัน โดยตั้งเป้า ณ สิ้นปี 2019 สินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการของ BC ผ่านระบบดิจิตอลจะเข้าถึงลูกค้าไม่ต่ำกว่า 96 ล้านวิว/เดือน และมีการคลิกเพื่อเข้าดูข้อมูลต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 4.8 ล้านคลิก/เดือน 3)นำเครื่องมือที่รวบรวมข้อมูลที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ ขาย ปล่อยเช่า หรือลงทุนไว้ในที่เดียว เช่นTrending Search เครื่องมือที่ช่วยในการค้นหาได้อย่างอัจฉริยะตามเทรนด์ตลา, BKK 7 Zones เครื่องมือที่จะช่วย scope ข้อมูลให้แคบลง , GURU Review แนะนำเทรนด์การลงทุนที่น่าสนใจแบบ 360 องศา ฯลฯ "การยกระดับทิศทางการดำเนินงานครั้งนี้ เพื่อให้ BC เป็นพร็อพเพอร์ตี้ เอเจนท์อันดับ 1 ในใจผู้บริโภค ที่ส่งมอบสิทธิประโยชน์สูงสุด ที่ตอบรับกับความต้องการของลูกค้า ผ่าน 3 มิติสำคัญ 1) ศูนย์กลางการเชื่อมต่อฐานข้อมูลอสังหาที่ครบ จบ ในที่เดียว 2) แตกต่างด้วยการผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะเข้ากับทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน พร้อมชี้โอกาสและการลงทุนด้วยผลลัพธ์ที่มากกว่า 3) ประตูสู่การลงทุนอสังหาของวันนี้และอนาคต ” นายขยล กล่าว สำหรับแนวโน้มตลาดรีเซลในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียมนั้น ยังมีโอกาสอยู่มาก ในทำเลใจกลางเมือง ด้วยปัจจัยราคาที่ดินที่ยังคงปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีให้ตลาดรีเซลกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง ยกตัวอย่างดาต้าสินค้าคอนโดมิเนียมในโซนเพลินจิต-ชิดลม ซึ่งหากดูข้อมูลย้อนหลัง 5 ปีจะเห็นแก๊ปราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตร ระหว่างคอนโดมิเนียมใหม่กับรีเซลคอนโดมิเนียมในโซนเพลินจิต-ชิดลมมีความแตกต่างกันเฉลี่ยประมาณ 40% อีกทั้งหากพิจารณาถึงผลกำไรจากการขายอสังหาริมทรัพย์ (Capital Gain) สินค้าในกลุ่มลักชัวรี่ ราคาขายประมาณ 150,000-200,000 บาท ต่อ ตรม. มีผลกำไรเฉลี่ยที่โตถึง 5.92% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงโอกาสของสินค้ารีเซลได้อย่างชัดเจน ขณะที่โครงการ “LIFE วัน ไวร์เลส” บนถนนวิทยุ แฟล็กชิพคอนโดมิเนียมกลุ่มลักชัวรี่ที่สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่จากเอพี ไทยแลนด์ถือเป็นหนึ่งในโครงการไฮไลท์ที่น่าสนใจ ทั้งด้วยศักยภาพของโครงการที่สมบูรณ์สวยงาม ราคารีเซลที่คุ้มค่าหากเทียบกับราคาเฉลี่ยของโครงการใหม่ที่เปิดตัวในปี 2019 ประมาณ 60-70% (ราคารีเซลเฉลี่ย LIFE วัน ไวร์เลส อยู่ที่ประมาณ 179,000 บาท /ตร.ม. ขณะที่ราคาพรีเซลโครงการใหม่ปี 2019 เฉลี่ยประมาณ 330,000 ล้านบาท) อีกทั้งจำนวนซับพลายที่เกิดขึ้นใหม่ในย่านดังกล่าวที่มีอย่างจำกัด ซึ่งเชื่อว่าโครงการ LIFE วัน ไวร์เลส จะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาด ปัจจุบันบีซี ให้บริการครอบคลุมทุกเรื่องด้านอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้การดำเนินงาน 3 ส่วนสำคัญ ได้แก่ 1) Resale Business ธุรกิจรีเซล บริการรับฝากขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันมีสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ BC มูลค่าประมาณ (Property Value) 140,000 ล้านบาท 2) Rental Business ธุรกิจรับฝากเช่าและสรรหาผู้เช่าอสังหาริมทรัพย์ โดยมีมูลค่าค่าเช่ารวมไม่ต่ำกว่า (Rental Value) 3,900 ล้านบาทต่อปี และสุดท้ายกับ 3) Exclusive Sole Agent ธุรกิจการเป็นตัวแทนขายสินค้าใหม่ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยเฉลี่ยสินค้าในพอร์ต BC เป็นสินค้าเครือเอพี ไทยแลนด์ประมาณ 25% ที่เหลือเป็นสินค้าจากแบรนด์อื่นๆ ที่ทาง BC ได้รับความไว้วางใจให้บริหารจัดการ มีความหลากหลายตั้งแต่ระดับลักชัวรี่ ซูเปอร์-ลักซ์ จนถึง อัลตร้า-ลักซ์ ครอบคลุมทุกทำเลของเมือง พร้อมเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้า (BTS, MRT และ AIRPORT LINK) ได้หลายรูปแบบ