จากกรณีรถกระบะเสียหลักพลิกคว่ำชนเสาไฟฟ้า ปากซอยกิ่งแก้ว 21 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้นักศึกษาเทคนิคที่ไปฉลองฝึกงานวันสุดท้าย เสียชีวิตรวม14 ศพ (รวมศพล่าสุด) นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะประธานคณะกรรมการมูลนิธิประชาปลอดภัย ขอแสดงความเสียใจต่ออุบัติเหตุทางถนนอันร้ายแรง ที่ทำให้นักศึกษาที่เป็นทั้งอนาคตของครอบครัวและของชาติเสียชิวิตลงไปเป็นจำนวนมาก ถือเป็นความสูญเสียร่วมกันของสังคมไทยครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ที่เราน่าจะป้องกันได้ แต่ก็มิได้กระทำการใดๆอย่างเพียงพอ และคาดว่าต่อจากนี้ไปอีกสักระยะกรณีนี้ก็จะถูกลืมเลือนไป จนกว่าเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันบังเกิดขึ้นอีกแบบที่เป็นมาโดยตลอด ยกเว้นครอบครัวผู้สูญเสียเท่านั้นที่จะยังเจ็บปวดฝังใจอยู่ตลอดไป ทางมูลนิธิเองได้เคยให้ความเห็นต่อประเด็นการโดยสารในกะบะหลังของรถกะบะว่าเป็นกรณีที่อันตรายที่มิอาจห้ามได้ เพราะระบบการขนส่งของคนไทยทั่วประเทศยังใช้กันอยู่ทั่วไปในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบท ดังนั้นต้องหามาตรการมาป้องกันให้เกิดขึ้นน้อยที่สุดในบริบทของไทยให้ได้นั่นคือการห้ามนั่งข้างหลังกระบะมากเกินระดับที่เกิดอันตรายต่อการควบคุมรถ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยประกาศบังคับใช้มาก่อนแล้วในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว คือไม่เกิน 6 คน ซึ่งก็สามารถป้องกันอุบัติเหตุลักษณะนี้ได้ตามสมควร ซึ่งถ้าเพิ่มมาตรการจำกัดความเร็วตามกฏหมายกำหนดคือไม่เกิน 80 กม./ชั่วโมง อย่างเคร่งครัดในกรณีที่มีผู้โดยสารอยู่ข้างหลังด้วยก็จะปลอดภัยมากขึ้นอย่างแน่นอน มูลนิธิประชาปลอดภัยขอเรียกร้องให้ผู้รับผิดชอบฝ่ายรัฐประกาศใช้มาตรการเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถกระบะนี้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี และเรียกร้องให้ประชาชนร่วมปฏิบัติตาม เพราะนั่นคือความปลอดภัยของท่านและครอบครัวโดยแท้ มิเช่นนั้นแล้วเราจะต้องสียใจกับเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่มีวันสิ้นสุด