รมช.มนัญญา ย้ำยึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ดันสหกรณ์เข้มแข็ง พร้อมนำสหกรณ์เข้าตลาดออนไลน์แชร์ตลาด 3 ล้านล้านบาท
เมื่อวันที่ 29 ก.ย. นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวให้นโยบายกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ในการสัมมนาวิชาการเนื่องในโอกาสครบรอบ 47 ปีว่า ขอให้ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 และพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการส่งเสริมงานสหกรณ์ เพราะจะเห็นว่าพระองค์ทรงงานหนักหลายด้าน แต่ก็ทรงให้ความสำคัญกับงานสหกรณ์มาก เพราะสหกรณ์เป็นองค์กรที่มีความสำคัญที่จะช่วยดูแลเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง
“ความพอเพียงไม่ได้หมายความว่าลำบาก แต่เป็นการสร้างความมั่งคั่งและยั่งยืน เพราะหากไม่พอเพียงจะทำให้ชีวิตลำบาก หากรู้จักคำว่าพอเพียงจะไม่ลำบาก เกินกว่านั้นคือฟุ่มเฟือย ไร้ความจำเป็น ดังนั้นให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์ในทุกพื้นที่จริงจังกับการทำงานเพื่อความเข้มแข็งสหกรณ์ กรมฯ นี้ถือว่าทำงานใกล้ชิดกับเกษตรกรมากที่สุดและภารกิจยิ่งใหญ่ที่สุด ดิฉันอยากให้สกรณ์เราเข้มแข็ง เราต้องทุ่มเท จากนี้ดิฉันจะลงพื้นที่ไปเยี่ยมและให้กำลังใจสหกรณ์ทุกพื้นที่ จะไม่มีการทอดทิ้ง”รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าว
โดยจะเน้นให้สหกรณ์ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและปลอดภับสำหรับผู้บริโภค และกำลังประสานความร่วมมือกับหลายหน่วยงานเพื่อหาช่องทางตลาดให้กับสหกรณ์ เพราะหากสามารถทำให้สหกรณ์มีรายได้เพิ่มจากการค้าขายและการทำธุรกิจ จะส่งผลที่ดีกลับไปยังเกษตรกรที่เป็นสมาชิก โดยเบื้องต้นได้หารือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) ว่าจะสามารถที่จะช่วยเหลือกันเพิ่มความรู้ในด้านการค้าขายออนไลน์ได้อย่างไร จะร่วมแชร์ตลาดค้าออนไลน์ที่มีมูลค่ากว่า 3 ล้านล้านบาทได้อย่างไร คาดว่าในงบประมาณปี 63 เราจะเดินหน้าในเรื่องนี้ อย่างจริงจัง
ด้าน นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้กรมฯ ได้เริ่มพัฒนาการค้าผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ในเวบไซต์ C0-OP shop ที่กำลังพัฒนาเพื่อให้เป็นช่องทางในการโปรโมทสินค้าสหกรณ์เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ามาใช้บริการและเลือกซื้อสินค้าจากสหกรณ์ต่างๆ ได้ และกำลังเริ่มจะให้มีการบ่มเพาะความรู้ในการค้าผ่านช่องทางดังกล่าว รวมถึงการผลักดันให้เกิดตลาดเกษตรกรในสหกรณ์ตามพื้นที่ต่างๆ รวมถึงจัดตั้งซุปเปอร์มาเก็ตสหกรณ์ ในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดใหญ่ๆ โดยจะเป็นแหล่งจำหน่ายพืชผักผลไม้ สินค้าและผลผลิตต่างๆ จากสหกรณ์ทั่วประเทศมารวมไว้ให้ผู้บริโภคได้ไปเลือกซื้อได้อย่างสะดวก เพื่อเพิ่มช่องทางตลาดจำหน่ายผลผลิตและสินค้าของสมาชิกสหกรณ์
ทั้งนี้ ธุรกิจสหกรณ์การเกษตร/กลุ่มเกษตร ปี 62 สหกรณ์ 8,097 แห่ง เป็นสหกรณ์ภาคเกษตร 4,547 แห่ง นอกภาคเกษตร 3,550 แห่ง สมาชิก 11.6 ล้านคน สมาชิกภาคการเกษตร 6.7 ล้าน นอกภาคเกษตร 4.9 ล้านคน ทุนดำเนินการ 3.1ล้านล้านบาท ปริมาณธุรกิจ 2.5 ล้านล้านบาท