“เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า”จวกกลุ่มรณรงค์บิดเบือนสรุปข้อมูลบุหรี่ไฟฟ้า ตั้งเป้าทำลายความน่าเชื่อถือข้อมูลเกี่ยวกับ“บุหรี่ไฟฟ้า”ยันมะกันยังไม่ได้ข้อสรุปบุหรี่ไฟฟ้าทำผู้ใช้เกิดโรคปอดอักเสบ โวยไม่เคยรับเงินบริษัทบุหรี่ พร้อมเดินหน้าให้ความจริงกับสังคม เล็งล่าชื่อเสนอ กม.ปลดล็อคเร็วๆนี้
นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า “กลุ่มลาขาดควันยาสูบ (ECST)” และเฟซบุ๊คเพจ “บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร” ให้ความเห็นกรณีการแถลงข่าวบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าและมีการพาดพิงเครือข่ายฯว่า ทั้งๆที่มีผลการวิจัยจากกระทรวงสาธารณสุข ประเทศอังกฤษ และองค์การอาหารและยา (อย.)สหรัฐอเมริกาที่น่าเชื่อถือได้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวนและหลายประเทศสนับสนุนให้เป็นทางเลือกสำหรับผู้สูบบุหรี่ที่ต้องการเลิกบุหรี่หรือผู้สูบบุหรี่ที่ต้องการหลีกเลี่ยงควันบุหรี่ แต่กลุ่มรณรงค์ต่อต้านบุหรี่มักจะอ้างเฉพาะข้อมูลด้านลบแต่เพียงอย่างเดียว
“ที่ผ่านมามีการหยิบยกคำพูดของคนอื่นมาอ้างแบบผิดๆ หลายต่อหลายครั้ง เช่น ระบุว่าสหรัฐฯจะสั่งแบนบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งความจริงจะมีการห้ามเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าที่แต่งเติมรสชาติเท่านั้น หรือสรุปเองว่าโรคปอดอักเสบในอเมริกามาจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า ทั้งๆ ที่กรมควบคุมโรค และ อย.สหรัฐฯบอกว่ายังไม่สามารถสรุปได้เพราะยังอยู่ระหว่างการสืบสวน ขอท้าให้แปลคำประกาศของทั้งกรมควบคุมโรคและ อย. สหรัฐฯแบบทุกตัวอักษร ไม่ใช่เอามาเพียงบางส่วนแล้วสร้างความเข้าใจผิดพร้อมโหนกระแสแบบนี้”
นายมาริษให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การแบนบุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบันทำให้เกิดปัญหาตามมาทั้งเรื่องการลักลอบซื้อขายกันทางออนไลน์ โฆษณาบรรยายสรรพคุณกันทางอินเตอร์เน็ต เป็นช่องทางให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าได้โดยที่รัฐบาลไม่สามารถเข้าไปควบคุมได้เลย และยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ใช้ดังที่เป็นข่าวอยู่ในสหรัฐอเมริกาในขณะนี้ ตรงกันข้ามกับประเทศอังกฤษ สหภาพยุโรป ที่มีการควบคุมการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอย่างเข้มงวด รวมทั้งป้องกันการเข้าถึงของเด็กเยาวชนทำให้ไม่เกิดปัญหาดังกล่าว
“ประชาชนคนไทยต้องได้รับข้อมูลที่บิดเบือน ข้อมูลด้านเดียว หรือข้อมูลที่ไม่ถูกต้องมาตลอดเวลา เราอยากเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องและรณรงค์ให้บุหรี่ไฟฟ้าได้รับการควบคุมอย่างถูกกฎหมาย การที่มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ออกมาให้ข่าวแบบนี้จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องการสูบบุหรี่ให้คนไทยกว่า 10 ล้านคนได้อย่างไร ลองไปอ่านความคิดเห็นในโซเชียลมีเดียจะรู้ว่าคนส่วนใหญ่ไม่เชื่อข้อมูลด้านเดียวแบบนี้”
ด้านนายอาสา ศาลิคุปต ตัวแทนเครือข่ายฯเดียวกัน กล่าวเสริมว่า กลุ่มรณรงค์ฯยังพาดพิงพยายามดิสเครดิตพวกเรา ซึ่งเป็นเครือข่ายอิสระ เป็นการรวมตัวของผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่มีความตั้งใจเหมือนกันคืออยากลดอันตรายให้ตัวเอง และอยากเห็นบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าถูกกฎหมาย เราเป็นสมาชิกขององค์กรผู้ใช้ผลิตภัณฑ์นิโคตินนานาชาติ (INNCO) มีองค์กรที่เป็นกลุ่มผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าจากหลายๆประเทศเป็นสมาชิกอยู่ด้วย การอ้างว่าเครือข่ายฯ ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทบุหรี่ ถือเป็นการจับแพะชนแกะ และไร้ความรับผิดชอบ
ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดจากข้อมูลที่บิดเบือนของกลุ่มรณรงค์ฯ เราจะเดินหน้านำเสนอความจริงให้กับสังคมได้รับทราบและเสนอปัญหาให้พรรคการเมืองที่ดูแลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ รวมทั้งพรรคฝ่ายค้านได้รับทราบปัญหาของประชาชน และเปิดเวทีกลางให้ทุกๆ ฝ่ายได้มาแสดงความคิดเห็นและให้ข้อมูลกันอย่างเป็นกลาง
“พวกเราจะใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 133 เพื่อลงรายชื่อผู้สนับสนุนเสนอร่างแก้ไขกฎหมาย และประกาศกระทรวงต่างๆ เนื่องจากเห็นว่า เป็นการแก้ไขกฎหมายเพื่อรักษาสิทธิและเสรีภาพของผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นทางเลือกในปัจจุบันที่มีจำนวนหลายแสนราย ตรงตามที่รัฐธรรมนูญได้บัญญัติไว้ ทั้งนี้จะรณรงค์ขอให้พรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงสาธารณสุข ให้ทราบข้อมูลที่ถูกต้องและสนับสนุนร่างกฎหมายของภาคประชาชนด้วย”
