เมื่อนึกถึงเด็กอาชีวะ ในความรู้สึกของคนส่วนใหญ่มักจะติดภาพในแง่ลบ แต่มีนักศึกษาอาชีวะอีกมากมายที่เป็นพลังบวกให้สังคม ดังเช่น บูม หรือนายฐิติกร หลักเพชร  นักศึกษาชั้น ปวช.3 สาขาอาหารและโภชนาการ วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก อายุ 20 ปี ที่สู้ชีวิตอย่างน่าชื่นชม และประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยด้วยธุรกิจ “บูม” ซาลาเปา เด็กหนุ่มร่างท้วมใหญ่บุคลิกร่าเริง สนุกสนาน มนุษยสัมพันธ์ดี คุยเก่ง เข้ากับคนง่าย เล่าถึงเรื่องราวในชีวิตกว่าจะมาถึงวันนี้ว่า เกิดและเติบโตที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก พออายุได้ 2 ขวบ พ่อแม่แยกทางกัน โดยอยู่กับแม่ ต่อมาแม่ไปทำงานที่ชลบุรี จึงต้องอยู่กับตายายแทน พออายุได้ 7 ขวบ ยายเสียชีวิต ต่อมาอายุ 13 ปี ตาเสียชีวิต จึงต้องย้ายไปอยู่กับป้า ได้ช่วยงานป้าทุกอย่างไม่ว่าจะทำไร่ทำนา ทำงานบ้าน จนจบม.3 ตัดสินใจออกมาใช้ชีวิตหาเลี้ยงชีพด้วยตนเอง โดยย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านเดิมของตายาย รับจ้างทำงานทั่วไป เป็นเด็กเสิร์ฟ รับเลี่ยมพระ ทำงานทุกอย่างที่พอจะทำได้อยู่ 1 ปี   จากนั้นจึงตัดสินใจไปเรียนสาขาสัตวศาสตร์ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพิจิตร เพราะได้ยินมาว่า เรียนฟรี กินฟรี อยู่ฟรี เรียนได้ 2 ปีกว่าใกล้จะจบต้องไปฝึกงาน บูมว่า ตอนนั้นเริ่มถามตัวเองว่า ใช่ตัวเองหรือไม่ เพราะรู้สึกดูอะไรมันก็ยากไปหมด ผลการเรียนก็ไม่ค่อยดีเป็นลำดับท้ายๆ รู้สึกเหนื่อย ท้อ หมดกำลังใจ แต่ขณะเดียวกัน เมื่อวลาได้ทำอาหาร ทำขนม แม้จะหนัก เหนื่อย ต้องอยู่หน้าเตาตลอด แต่ทำไมมีความสุข สนุกมาก ประกอบกับช่วงนั้นเพื่อนๆ เรียนใกล้ จะจบในสาขาอาหารและโภชนาการ จึงเห็นว่าเรียนแล้วดี เลยตัดสินใจลาออกจากวิทยาลัยเกษตรแล้วมาเลือกเรียนใหม่ในสาขาอาหารและโภชนาการที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก หลักสูตรเกี่ยวกับเบเกอรี่เบื้องต้น เบเกอรี่เพื่อการค้า อาหารไทยเบื้องต้น ขนมไทยเพื่อการค้า อาหารครอบครัว การตัดตกแต่งใบตองและแกะสลัก การออกแบบผลิตภัณฑ์สินค้า โภชนาการอาหาร และอาหารนานาชาติ บูมว่า ยิ่งเรียนยิ่งรู้สึกว่ามันใช่ ทำให้อยากมาเรียนทุกๆ วัน รู้สึกสนุก มีความสุข ตื่นเต้นกับการได้คิดค้นสูตรอาหารขนมใหม่ๆ เข้าใจทุกอย่างที่อาจารย์สอน ในช่วงปวช.1 บูมยังคงรับจ้างทั่วไปหาเงินส่งตัวเองเรียน แต่พอขึ้นปวช.2 เริ่มมีปัญหาไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม เพราะเรียนหนักขึ้น ไม่มีเวลาไปทำงาน จนครูพรทิพย์ วงคำสอน ครูที่ปรึกษาสาขาวิชาอาหารและโภชนาการทราบเรื่องว่าไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม จึงให้ยืมเงิน 2,000 บาทมาจ่าย ขณะที่ครูจินดารัตน์ นนท์ทราทร หัวหน้าสาขาอาหารและโภชนาการ ทราบว่ามีปัญหาการเงิน จึงไปเล่าให้ผอ.นิคม เหลี่ยมจุ้ย ผอ.วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลกทราบ เพื่อพิจารณาอนุญาตเป็นกรณีพิเศษให้ได้เรียนต่อ พร้อมกับชักชวนให้มาช่วยอาจารย์ทำขนมไทย เบเกอรี่ และจัดอาหารว่างขาย ทำให้ได้เพิ่มพูนความรู้ประสบการณ์และได้รายได้ จากประสบการณ์ฝึกงานช่วยอาจารย์ ทำให้ได้ลองผิดลองถูก จนคิดค้นสูตรซาลาเปาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะแตกต่างจากซาลาเปาในท้องตลาดได้สำเร็จ ซึ่งระหว่างนั้น ครูหลายท่านได้แนะนำให้เขียนแผนธุรกิจส่งในนามของศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา ทั้งนี้ วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลกได้ให้เงินลงทุนสนับสนุน 30,000 บาท เพื่อซื้ออุปกรณ์และวัตถุดิบในทำซาลาเปา หากนักศึกษาดำเนินธุรกิจจนคืนต้นทุนที่ยืมไปได้ จะต้องนำเงินมาคืนเพื่อเป็นเงินลงทุนให้กับนักศึกษารุ่นน้องในปีต่อไป โดยผลกำไรที่ “บูม” ซาลาเปาได้รับ ถือเป็นรายได้ของนักศึกษา แผนธุรกิจ “บูม”ซาลาเปา ได้ผ่านคัดเลือกเป็น1ใน 20 ทีมธุรกิจดีเด่นในโครงการของอาชีวศึกษาที่ส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระในผู้เรียนอาชีวศึกษาที่จะจัดแสดงแผนธุรกิจในเดือนพฤศจิกายน 2562  ฐิติกรหรือบูม ว่า “บูม”ซาลาเปา ใส่ใจในทุกขั้นตอน คัดสรรวัตถุดิบอย่างดี สด สะอาด ไม่ใส่สารกันบูด แป้งซาลาเปา โดยจะใช้แป้งข้าวสาลี ซึ่งจะให้รสสัมผัสที่เหนียว นุ่ม หอม จัดเต็มด้วยไส้เน้น ๆ ครบเครื่อง รสชาติอร่อยกลมกล่อม ฟูน่ากิน ส่วนไส้มีให้เลือกหลากหลายแตกต่างจากในท้องตลาด อาทิ ไส้คั่วกลิ้งแกงใต้ ไส้พะโล้ ไส้หน่อไม้โบราณ ไส้หม้อแกงเผือก ไส้งาดำ ไส้โอนีแปะก๊วย ไส้เห็ดหอมหมูสับ และไส้ฮ่องเต้หมูสับปูอัดเบนโตะไข่ต้ม เป็นต้น ราคาเริ่มต้นลูกละ 15-25 บาท นอกจากนี้ ยังเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าสายสุขภาพ โดยใช้แป้งไรซ์เบอร์รี่ แป้งผสมงาดำ และแป้งลูกเดือย ทั้งยังเพิ่มรูปแบบลวดลายให้กับซาลาเปา เช่น รูปกุหลาบ รูปหน้าหมู และรูปผลไม้ต่าง ๆ เช่น รูปทุเรียน อีกด้วย ในช่วงแรกทดสอบตลาดได้นำซาลาเปาที่นึ่งสดใหม่ทำวันต่อวันไปวางขายในมหาวิทยาลัยนเรศวรในช่วงเช้า โดยแพ็คใส่ถุงละ 1 ลูก ขายในราคา 10 บาท ผลตอบรับดีมาก ลูกค้าบอกกันปากต่อปาก แป้งเหนียว นุ่ม หอม ไส้เน้น ๆ ครบเครื่อง รสชาติอร่อยกลมกล่อม ราคาไม่แพง ต่อมาพ่อค้าแม่ค้าในมหาวิทยาลัยนเรศวรและพื้นที่ใกล้เคียงในอ.เมือง จ.พิษณุโลกสนใจติดต่อ ขอมารับไปขายต่อ และบางวันก็มีลูกค้ามาสั่งซื้อเพื่อจัดทำเป็นอาหารว่างกว่า 1,000 ลูก สร้างยอดขายกว่าหลักหมื่นบาทต่อวัน ปัจจุบัน “บูม” ซาลาเปา มียอดสั่งซื้อไม่ต่ำกว่า 100 ลูกทุกวัน ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าในจ.พิษณุโลก ในอนาคตกำลังวางแผนเพิ่มฐานลูกค้าให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยกำลังไปศึกษาวิธีถนอมอาหารซึ่งจะสามารถเก็บซาลาเปาไว้ในอุณหภูมิห้องปกติได้นานนับเดือน ทำให้สามารถส่งซาลาเปาไปขายได้ทั่วประเทศหรือสามารถส่งออกขายต่างประเทศเพื่อเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย “บูม” ว่า รับสั่งทำได้ตามความต้องการของลูกค้าตั้งแต่การเลือกใช้แป้ง ได้แก่ แป้งธรรมดา แป้งไรซ์เบอร์รี่ แป้งผสมงาดำ หรือแป้งลูกเดือย ไส้ซาลาเปา ได้แก่ ไส้คั่วกลิ้งแกงใต้ ไส้พะโล้     ไส้หน่อไม้โบราณ  ไส้หม้อแกงเผือก  ไส้งาดำ ไส้โอนี่แปะก๊วย ไส้หมูสับไข่เค็ม ไส้หมูแดง ไส้ถั่วแดง ไส้ครีมคัสตาร์ด ไส้เห็ดหอมหมูสับ และไส้ฮ่องเต้หมูสับปูอัดเบนโตะไข่ต้ม ราคาขายปลีก เริ่มต้นที่ลูกละ 15 - 25 บาท หากซื้อ 100 ลูกขึ้นไป ขายราคาส่ง เริ่มต้นที่ลูกละ 12 บาท หากต้องการให้ซาลาเปามีรูปแบบลวดลายแปลกใหม่ คิดเพิ่มอีกลูกละ 3 – 5 บาท สนใจสั่งซื้อ ติดต่อได้ที่ โทร.099-241-8872 หรือทางเฟซบุ๊กที่เพจ Boom ซาลาเปา หรือไลน์ไอดี : 099-241-8872 หรือสามารถแวะมานั่งลองชิมความอร่อยกันได้ที่ศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาพิษณุโลก ซึ่งเปิดขายอยู่หน้าวิทยาลัยฯ ได้เลย