ที่จ.อุดรธานี มอบตัวแล้ว ลูกจ้างสำนักงานแห่งหนึ่งในจ.อุดรธานี คนขับแกร๊บคาร์จอมหื่นข่มขืนเด็กม.5 ตร.แจ้ง 4 ข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ตร.สอบเครียดมาราธอน 4 ชม. นำตัวพิมพ์ลายนิ้วมือตรวจดีเอ็นเอประกอบคดีก่อนตัวไป จากกรณีชายอายุ 33 ปีลูกจ้างภารกิจของสำนักงานแห่งหนึ่งในจ.อุดรธานี และรับจ็อบขับแกร๊บคาร์เพื่อหารายได้เสริม แต่ไปก่อเหตุข่มขืนสาวม.5 ของโรงเรียนชื่อดังในจ.อุดรธานีรายหนึ่งขณะเรียกแกร๊บคาร์ไปส่งหลังจากเดินทางไปงานเลี้ยงเพื่อนเรียนด้วยกันจนเมา และโทรเรียกแอปฯ แกร๊บคาร์ มารับไปส่งหอพัก ซึ่งต่อมาแกร๊บคาร์เป็นชายขับรถเก๋งสีขาวมารับที่หน้าปากซอย ก่อนจะนอนหลับในรถ พอมารู้สึกตัวตื่น​ เจ้าตัวก็ถูกคนขับรถลวนลามและลากไปข่มขืนที่เบาะหลังจนสำเร็จความใคร่ บอกเมา​ จึงไม่มีแรงขัดขืน หลังเสร็จกิจได้นำไปส่งหอพัก พอสร่างเมาได้นำเรื่องไปปรึกษาเพื่อน และโทรหาแกร๊บคาร์หื่น รับสารภาพว่าได้ข่มขืนจริง ก่อนมาแจ้งตำรวจเพื่อดำเนินคดี เหตุเกิดเวลา 02.00 น. วันที่ 19 กันยายน 62ที่ผ่านมา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตร.ชุดสืบสวนสภ.เมืองอุดรธานี ได้ลงพื้นที่ไปที่หอพักทรัพย์ราชา ซอยราชาบะหมี่ ถนนอุดรดุษฎี เขตเทศบาลนครอุดรธานี พบนายสุพิณ ภูโคกสูง อายุ 68 ปี เจ้าของหอพัก นำตรวจกล้องวงจรปิดภายในหอพักและซอย พบว่า น.ส.เอ มาสังสรรค์วันเกิดกับเพื่อนที่ห้องพัก เอ 1 ชั้น 1 เวลาประมาณ 02.24 น. พบ น.ส.เอ สวมเสื้อยืดดำ กางเกงยีน ถือเสื้อคลุมแขนยาว เดินออกมาจากห้อง มีอาการมึนเมาเซไปมาไปที่ปากซอย ข้ามถนนไปยืนรอแกร๊บคาร์มารับที่หน้าธนาคารทหารไทย โดยมีรถเก๋งสีขาว มารับ น.ส.เอออกไป ซึ่งจากกล้องภาพวงจรปิดของหอพักเห็นน้องคนดังกล่าวเดินออกจากหอพักด้วยอาการเมาสุรา เดินเซไปเซมา ออกจากซอยก่อนจะข้ามถนนไปรอขึ้นรถแกร๊บคาร์ซึ่งเป็นรถโตโยต้ายาริสสีขาว แต่มองไม่เห็นคนขับเพราะมุมกล้องอยู่ไกล จากนั้นก็ขับออกไป ล่าสุดวันนี้(23ก.ย.62) เวลา 12.30 น.คนขับแกร๊บดังกล่าวได้เดินทางมาพบกับ พ.ต.ต.เปลวทอง สารีนันท์ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วยทนายความ โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวไปถ่ายภาพหรือสัมภาษณ์ ตร.ได้ใช้เวลาสอบเครียดนานกว่า 4 ชม.ตั้งแต่เวลา 12.30-16.30 น.จึงได้นำไปพิมพ์ลายนิ้วมือใช้เวลาประมาณ 10 นาที เจ้าหน้าที่ตร.ได้นำตัวขึ้นรถตราโล่ไปตรวจดีเอ็นเอที่รพ.ศูนย์อุดรธานี โดยขณะที่เดินออกจากห้องพิมพ์ลายนิ้วมือ ผู้สื่อข่าวถามว่าจะคุยอะไรไหม จะบอกอะไรกับสังคมถึงเรื่องนี้ แต่ทางคนขับแกร๊บและทนายความไม่ขอตอบรีบเข้าไปในรถตร.ก่อนจะขับออกจากสภ.เมืองอุดรธานี ทางด้าน พ.ต.ท.บำรุง แนบชิดชัย รอง ผกกสอบสวน สภ.เมือง อุดรธานี เปิดเผยว่า วันนี้ทางคนขับรถแกร๊บคาร์เดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวนพร้อมทนายความ เบื้องต้นตร.ได้แจ้ง 4 ข้อหา1.พรากผู้เยาว์อายุกว่า15ปีแต่ไม่เกิน 18ปีไปเสียจากผู้ปกครอง บิดามารดาหรือผู้ดูแล โดยเด็กไม่เต็มใจไปด้วย 2.พรากคนอายุ 15ปีแต่ไม่เกิน 18ปีไปเพื่อทำอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นไม่ยินยอม 3.กระทำชำเราผู้อื่นในสภาวะผู้อื่น โดยผู้นั่น อยุ่ในสภาวะขัดขืนได้4.ไม่มีใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ แต่ทางคนขับรถแกร็บคารฺให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ส่วนการให้ประกันตัวหรือไม่ อยู่ในดุลพินิจของศาล พ.ต.ท.บำรุง เปิดเผยอีกว่า หลังจากนำคนขับแกร๊บไปพิมพ์ลายนิ้วมือและตรวจดีเอ็นเอที่รพ.ศูนย์อุดรธานีเพื่อประกอบคดีแล้วทางตร.ก็นำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม จากนั้นก็จะปล่อยตัวไป เพราะถือว่าเขามามอบตัวเองไม่ได้ออกหมายจับ​ และจะต้องมาพบกับพนักงานสอบสวนตามที่เรียกมาในช่วง 2 เดือนทุกช่วง 12 วัน ขณะเดียวกันมีรายงานว่า วันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ตร.พิสูจน์หลักฐานได้ตรวจรถยนต์ฮอนด้าซิตี้สีขาว ซึ่งเป็นรถที่คนขับแกร๊บนำไปใข้เป็นรถแกร๊บคาร์เพื่อหารายละเอียดและหลักฐานเพิ่มเติมด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตร.มั่นใจในพยานหลักฐานที่จะสามารถเอาผิดกับคนขับแกร๊บได้ ซึ่งก่อนหน้านี้หลังเกิดเหตุก็ได้แชททางMassengerมาคุยกับน้องผู้เสียหาย โดยข้อความบอกว่า ผมขอโทษจริงๆ อย่าทำลายอนาคตผม.และลูกผมเลยครับ ผมสำนักผิดแล้ว เห็นแก่ลูกผมเถอะ อย่าต้องให้ถึงขึ้นโรงขึ้นศาลเลย