หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์ประจำที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเพจ "หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC" ระบุว่า Mycobacterium abscessus เป็นมัยโคแบคทีเรียที่ไม่ใช่วัณโรค ชนิดเจริญเติบโตเร็ว อยู่ในสิ่งแวดล้อม น้ำและดิน ก่อให้เกิดโรคติดเชื้อในปอด ผิวหนัง และเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง เริ่มพบบ่อยขึ้นในคนไทย เป็นวัณโรคเทียมชนิดที่รักษายากที่สุด เพราะดื้อต่อยาหลายชนิด ไม่ติดต่อระหว่างคนสู่คน ผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 45 ปี ปกติแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัว มารพ.ด้วยไอ เสมหะสีน้ำตาล 2 เดือน ไข้ต่ำๆ ไม่เบื่ออาหาร น้ำหนักไม่ลด ไม่มีไอเป็นเลือด ไม่เคยเป็นวัณโรคมาก่อน เอกซเรย์มีฝ้าขาวเล็กน้อยที่ปอดซ้าย ทำคอมพิวเตอร์ปอด พบหลอดลมโป่งพองที่ lingula segment ของปอดกลีบบนข้างซ้าย (ดูรูป) ส่งเสมหะย้อมสีทนกรด (acid fast bacilli) AFB ให้ผลบวก 3+ ทั้ง 2 ตัวอย่าง ส่งเสมหะเพาะเชื้อหาวัณโรค วินิจฉัยเป็นวัณโรคปอด ได้เริ่มยารักษาวัณโรค ผลเพาะเชื้อ 2 เดือนถัดมา ขึ้นเป็นเชื้อวัณโรคเทียม (ไม่ใช่วัณโรคแท้) Mycobacterium abscessus 3+ ทั้ง 2 ตัวอย่าง ดื้อต่อยาทุกตัว ยกเว้นยาฉีด Amikacin ผู้ป่วยอาการดีขึ้นเล็กน้อย ไอน้อยลง เสมหะลดลง หลังกินยารักษาวัณโรค ตัดสินใจยังไม่รักษาวัณโรคเทียมนี้ เพราะการรักษาต้องให้ยาที่เชื้อไม่ดื้อในห้องปฏิบัติการหลายขนานพร้อมกัน การให้ยาฉีด Amikacin เพียงขนานเดียว ในไม่ช้าเชื้อวัณโรคเทียม M.abscessus ก็จะดื้อต่อยา Amikacin ไม่เหลือยาใช้รักษาในอนาคต เนื่องจากผู้ป่วยดีขึ้นบ้างหลังกินยารักษาวัณโรค แนะนำให้ผู้ป่วยกินยารักษาวัณโรคต่อไปจนครบ 6 เดือนแล้วหยุด ติดตามอาการ ถ้ามีไอเป็นเลือด และเอกซเรย์แย่ลง ให้ผ่าตัดเอาเฉพาะ lingular segment ที่มีหลอดลมโป่งพองของปอดกลีบบนข้างซ้ายออก ขอบคุณภาพและข้อมูล เพจ-หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC