พาณิชย์เผยส่งออกเดือน ส.ค.62 กลับมาติดลบร้อยละ 4 เหตุเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอจากสงครามการค้า-ราคาน้ำมันปรับลด-บาทแข็ง มั่นใจทั้งปี 62 ไม่ติดลบ เล็งปรับแนวทางเพื่อส่งออกที่เหลือให้ดีขึ้น
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.)กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ตัวเลขการส่งออกเดือนส.ค.62 พบว่าการส่งออกกลับมาติดลบรัอยละ 4 โดยมีมูลค่าส่งออกอยู่ที่ 21,914.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่นำเข้าติดลบถึงร้อยละ 14.62 หรือคิดเป็นมูลค่า19,862.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ไทยยังเกินดุลการค้าอยู่ที่ 2,052.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทั้งนี้หากดูตัวเลขส่งออกไทยตลอด 8 เดือน(ม.ค.-ส.ค.)ไทยส่งออกได้ทั้งสิ้น 166,090.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ติดลบร้อยละ 2.19 ขณะที่นำเข้ามีมูลค่า 158,984.4 ล้านดอลลาร์ฯ ติดลบร้อยละ 3.61 แต่ยังได้ดุลการค้ารวมอยู่ที่ 6,106 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยยอมรับว่าสาเหตุส่งออกไทยปรับตัวลดลงเดือนส.ค.62 มาจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา ทำให้หลายตลาดรวมถึงไทยส่งออกลดลงค่อนข้างพอสมควร
สำหรับหลายปัจจัยดังกล่าวที่ส่งผลให้ภาพรวมการส่งออกของไทยกลับมาติดลบนอกจากภาวะเศรษฐกิจโลกซบเซา ความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าและความไม่มั่นคงสถานการณ์ในตะวันออกกลางส่งผลให้ความผันผวนราคาน้ำมันตลาดโลก อีกทั้งภาพรวมของอัตราแลกเปลี่ยนเป็นปัจจัยหลักส่งผลให้ค่าเงินบาทไทยแข็งค่าจนราคาสินค้าเกษตรสำคัญบางชนิดถูกกระทบเช่น ข้าวไทย หลายประเทศหันไปซื้อข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งเวียดนามและเมียนมาแทน จากคาดการณ์ไว้ว่าจะส่งออกข้าวไทยไม่ถึง 10 ล้านตันแน่นอน ดังนั้นจะหารือกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์เร่งปรับเปลี่ยนวิธีการทำตลาดข้าวไทยและเตรียมนำคณะเยือนประเทศคู่ค้า เพื่อเร่งเชิญชวนหันกลับมาซื้อข้าวไทยเช่นเดิม
โดยกระทรวงพาณิชย์ยังมองว่าไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ต่างๆอย่างใกล้ชิด แต่คาดหวังการส่งออกเฉลี่ยรายเดือนน่าจะอยู่ที่ 21,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯจะส่งผลให้ยอดการส่งออกโดยรวมทั้งปีไม่ติดลบ แต่จะขยายตัวได้เพียงร้อยละ 0 เดิมคาดการณ์ว่าจะขยายตัวร้อยละ 3 หรือจะต้องผลักดันส่งออกเฉลี่ยต่อเดือนถึง 23,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯคงทำได้ยากจากหลายปัจจัยที่ยังไม่ค่อยดีนัก แต่เชื่อว่าจากแนวทางที่ร่วมมือกันทั้งภาครัฐและเอกชนจะทำให้การส่งออกของไทย แม้จะไม่เป็นบวกมากนัก แต่สามารถรักษาฐานการส่งออกได้สูงอยู่ก็ดีแล้ว
สำหรับหลายปัจจัยดังกล่าวที่ส่งผลให้ภาพรวมการส่งออกของไทยกลับมาติดลบนอกจากภาวะเศรษฐกิจโลกซบเซา ความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าและความไม่มั่นคงสถานการณ์ในตะวันออกกลางส่งผลให้ความผันผวนราคาน้ำมันตลาดโลก อีกทั้งภาพรวมของอัตราแลกเปลี่ยนเป็นปัจจัยหลักส่งผลให้ค่าเงินบาทไทยแข็งค่าจนราคาสินค้าเกษตรสำคัญบางชนิดถูกกระทบเช่น ข้าวไทย หลายประเทศหันไปซื้อข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งเวียดนามและเมียนมาแทน จากคาดการณ์ไว้ว่าจะส่งออกข้าวไทยไม่ถึง 10 ล้านตันแน่นอน ดังนั้นจะหารือกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์เร่งปรับเปลี่ยนวิธีการทำตลาดข้าวไทยและเตรียมนำคณะเยือนประเทศคู่ค้า เพื่อเร่งเชิญชวนหันกลับมาซื้อข้าวไทยเช่นเดิม
โดยกระทรวงพาณิชย์ยังมองว่าไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ต่างๆอย่างใกล้ชิด แต่คาดหวังการส่งออกเฉลี่ยรายเดือนน่าจะอยู่ที่ 21,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯจะส่งผลให้ยอดการส่งออกโดยรวมทั้งปีไม่ติดลบ แต่จะขยายตัวได้เพียงร้อยละ 0 เดิมคาดการณ์ว่าจะขยายตัวร้อยละ 3 หรือจะต้องผลักดันส่งออกเฉลี่ยต่อเดือนถึง 23,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯคงทำได้ยากจากหลายปัจจัยที่ยังไม่ค่อยดีนัก แต่เชื่อว่าจากแนวทางที่ร่วมมือกันทั้งภาครัฐและเอกชนจะทำให้การส่งออกของไทย แม้จะไม่เป็นบวกมากนัก แต่สามารถรักษาฐานการส่งออกได้สูงอยู่ก็ดีแล้ว