“เฉลิมชัย” รับเคลียร์เอง ม็อบ กฟก. 3.5 พันคนบุกเกษตรฯ ทวงสัญญาแก้ปัญหาหนี้สิน เร่งประชุมคณะกรรมการ กฟก. ชุดใหม่ ดึงสถาบันการเงินเจ้าหนี้ให้ระงับการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ใช้ค้ำประกันหนี้ สั่ง กฟก. ซื้อหนี้เกษตรกรมาบริหารจัดการเอง เมื่อวันที่ 16 ก.ย. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้ประชุมกับแกนนำกลุ่มเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทยซึ่งนำโดย นายชรินทร์ ดวงดารา ที่ยื่นหนังสือเรียกร้องให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในฐานะประธาน กฟก. และตนซึ่งเป็นรอง ประธาน กฟก. ให้ดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการ กฟก.ชุดใหม่ โดยเร็ว เพื่อที่คณะกรรมการจะได้พิจารณาแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรสมาชิก กฟก. โดยให้ความเห็นชอบร่างโครงการโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร สมาชิก กฟก. ลูกหนี้ธนาคารของรัฐ ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนคารออมสิน และธนาคารพาณิชย์ต่างๆ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ความเห็นชอบร่างโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินกรณีเกษตรกรมีหนี้เกิน 25 ล้านบาทต่อราย โดยตามระเบียบปัจจุบันนั้น หนี้ที่ กฟก. จะซื้อมาบริหารจัดการได้ต้องไม่เกิน 25 ล้านบาท แต่เนื่องจากมีเกษตรกรส่วนหนึ่งมีหนี้เกินจึงต้องการให้ช่วยเหลือเพื่อนำเสนอ ครม. ให้มีมติต่อไป นอกจากนี้ ยังต้องการให้เร่งจัดการแก้ปัญหาสินทรัพย์รอการขาย (NPA) เพราะหากคณะกรรมการชุดใหม่ยังไม่ได้ให้ความเห็นชอบโครงการดังกล่าว ที่ดินทำกินและอสังหาริมทรัพย์ของสมาชิกที่นำไปค้ำประกันการกู้ยืม แล้วไม่สามารถชำระได้ตามกำหนดจะถูกบังคับคดีขายทอดตลาด และให้เร่งดำเนินโครงการฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพแก่เกษตรกรเพื่อให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัวและชำระหนี้สินที่ กฟก. ซื้อมาบริหารจัดการได้ โดยสมาชิกจะชำระคืนแก่ กฟก. ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าเจ้าหนี้เดิม นอกจากนี้ยังขอให้คณะกรรมการกฟก. เร่งจัดทำรายละเอียดทำรายละเอียดการจัดทำสัญญาการชำระหนี้ของสมาชิกที่กฟก. รับการชำระหนี้แทนหรือการจัดการหนี้ไปแล้วทั้งหมดเพื่อที่สมาชิกจะได้ชำระหนี้แก่ กฟก. ตามสัญญา โดยอาจตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อพิจารณารายละเอียดก่อนภายใน 7 วัน ส่วนอีกกลุ่มนำโดยนายยศวัจน์ ชัยวัฒนศิริกุล ที่ปรึกษาสมาพันธ์เกษตรกรแห่งประเทศไทย (สกท.) ที่ยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐมนตรีเกษตรฯ เร่งรัดการแก้ไขพ.ร.บ. ฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเพื่อให้ กฟก. สามารถชำระหนี้แทนสมาชิกกองทุนฟื้นฟูกรณีหนี้ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันหรือหนี้บุคคลค้ำได้ เนื่องจากเป็นนลูกหนี้กลุ่มใหญ่ของ ธ.ก.ส. ซึ่งทางกระทรวงเกษตรฯ ได้ส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาร่างกฎหมายที่ให้ กฟก. สามารถจัดการซื้อหนี้ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันจากสถาบันการเงินได้ “ได้แจ้งแกนนำสมาชิก กฟก. ในประเด็นที่ให้คณะกรรมการ กฟก. ชุดใหม่ ประชุมโดยเร็วว่า ขณะนี้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรียังไม่ได้ส่งหนังสือแต่งตั้งคณะกรรมการในส่วนผู้ทรงคุณวุฒิมายังกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งเมื่อหนังสือมาถึงจะลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการ กฟก. ชุดใหม่ เพื่อให้สามารถประชุมแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกรทันที ส่วนการแก้ไขพ.ร.บ. กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรในมาตราที่แกนนำสมาชิ กฟก. เสนอนั้นได้ประสานงานไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว โดยทราบว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นชอบตามร่างแก้ไขที่เสนอไป แต่ยังไม่ได้ส่งหนังสือตอบกลับมายังกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งหากได้รับหนังสือตอบกลับ ผมจะนำเสนอ ครม. โดยเร็วที่สุด เพื่อเข้าสู่กระบวนการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายในสภาผู้แทนราษฎรต่อไป”รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าว ทั้งนี้ แกนนำทั้ง 2 กลุ่มพึงพอใจในคำตอบที่ได้รับ แต่ระบุว่า เกษตรกรสมาชิกกฟก. ที่เดินทางมาประมาณ 3,500 คนประสงค์จะพักค้างแรมที่หน้ากระทรวงเกษตรฯ เพื่อรอจนกว่าจะมีการดำเนินการตามข้อเรียกร้องทั้งหมด