ถกด่วน"กบง."พรุ่งนี้(17ก.ย.)ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุนราคาเบนซิน-ดีเซลลิตรละ 1 บาทลดภาระค่าครองชีพหลังราคาน้ำมันดิบพุ่งจากเหตุโจมตีโรงกลั่นซาอุฯ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ในวันนี้(16ก.ย.)ได้มีการประชุมด่วนทั้งภาครัฐ และเอกชน โรงกลั่นน้ำมัน ผู้ค้าน้ำมัน เพื่อติดตามกรณีซาอุดีอาระเบียถูกโจมตีแหล่งน้ำมัน ซึ่งพบว่าไม่กระทบต่อการจัดหาน้ำมันของไทย โดยยืนยันไม่ขาดแคลน แต่จะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ขยับขึ้น ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึง 71 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล แต่ขณะนี้ได้ปรับลงมาอยู่ที่ 67 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปรับขึ้น 12% หรือ 6-7 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลส่งผลต่อราคาน้ำมันในประเทศที่ต้องปรับขึ้นลิตรละ 1 บาท ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุนด้านราคา โดยปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้องเพลิง หรือให้บริษัทผู้ค้าน้ำมันชะลอการปรับขึ้นน้ำมันออกไปก่อน โดยในวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.)จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เพื่อติดตามสถานการณ์และตัดสินใจนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิที่มี 39,400 ล้านบาท มาร่วมดูแลสถานการณ์ ซึ่งจะช่วยชะลอการขยับขึ้นเท่าใดก็ต้องประเมินภาพรวมทั้งหมด ที่สำคัญต้องดูว่าทางซาอุดีอาระเบียจะสามารถกลับมาผลิตได้ภายใน 48 ชั่วโมงตามที่ประเมินสถานการณ์ได้หรือไม่ “ในส่วนของการบริหารจัดการด้านราคาซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือการควบคุมนั้น ทางกระทรวงพลังงานได้ตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง สถานการณ์ขณะนี้สามารถดูแลได้ น้ำมันไม่ขาดแคลน และจากกองทุนน้ำมันฯ ที่มีอยู่สามารถดูแลราคาน้ำมันที่ขยับขึ้นได้ให้มีเสถียรภาพ โดย กบง.จะดูถึงผลกระทบของแอลพีจีด้วยว่าจะดำเนินการอย่างไร และต้องเปลี่ยนแปลงมากน้อยขนาดไหน"