สุรินทร์-อบัติเหตุครูพาลูกศิษย์ 2 คนกลับจากแข่งทักษะวิชาการหลับในตกคลองข้างถนน นักเรียนหญิงกรามหักสาหัส นักเรียนชาย 10 ขวบเจ็บหน้าอกสาหัสส่วนครูปลอดภัย กู้ชีพเร่งช่วยเหลือ
วันนี้ (14 ก.ย.62) เวลาประมาณ 14.45 น. ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ได้เดินทางกลับมาจากพื้นที่ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ระหว่างเดินทางมาถึงบริเวณถนนสายปราสาท-ช่องจอม หลัก ก.ม.ที่12 บ.หนองใหญ่ ม.2 ต.หนองใหญ่ อ.ปราสาท ก่อนถึง บ้านกระวัน ต.หนองใหญ่ ปากทางเข้าบ้านของ ร.ต.สุรพล เต๊ะซัน เลขที่ 225 ม.2 บ.หนองใหญ่ ต.หนองใหญ่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พบรถยนต์กระบะแค๊ป ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไทเกอร์ สีบรอนด์เงิน หมายเลขทะเบียน บฉ 4711 สุรินทร์ ประสบอุบัติเหตุหลับในตกลงไปในคลองข้างถนน ชนกับขอบท่อซีเมนต์ จนควันโขมง และด้านหน้ารถพังเสียหาย กระจก ร้าว ไฟหน้ารถหลุด รวมทั้งแครสซีตัวถังรถหักงอ เหลือระยะห่างเพียง 1 เมตร หวิดชนเสาไฟฟ้าขนาดใหญ่ แต่ช่วงล่างของตัวรถได้ชนกับท่อปูนซีเมนต์เสียก่อนจึงทำให้รถหยุด ก่อนที่จะชนกับเสาไฟฟ้า
ภายในรถพบนางนิตยา ต้องถือดี อาจารย์โรงเรียนกาบเชิงวิทยา อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นคนขับนั่งอยู่ในอาการเบลอๆ ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ส่วนที่บริเวณเบาะด้านข้างคนขับพบ น.ส.สุภาภรณ์ วัชรวรพันธ์ อายุ 17 นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนกาบเชิงวิทยา นอนอยู่ในสภาพเลือดไหลออกที่จมูก กรามหัก อาการสาหัส แต่ยังมีสติอยู่ คาดว่าไม่ได้รัดเข็มขัดนิรภัย ทำให้หน้าและกรามกระแทกกับคอนโทรลรถอย่างจัง ขณะที่บริเวณเบาะแค๊ปด้านหลัง พบ ด.ช.มโนมัย ต้องถือดี อายุ 10 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.4 ไม่ทราบโรงเรียน นอนแน่นิ่งอยู่ด้วยความเจ็บปวดที่บริเวณหน้าอก แต่ยังรู้สึกตัว ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะได้โทรศัพท์แจ้ง หมายเลขฉุกเฉิน 1669 ประสานกู้ชีพ อบต.หนองใหญ่, กู้ชีพ อบต.ตาเบา ,หน่วยวีอาร์กู้ชีพ จุด อ.ปราสาท เร่งเข้าไปช่วยเหลือ
ระหว่างนั้นพบรถกู้ชีพ อบต.แก อ.เมือง จ.สุรินทร์ ใหญ่ผ่านมาประสบเหตุพอดี จึงลงมาช่วยปฐมพยาบาลในเบื้องต้นก่อน จากนั้น จนท.กู้ชีพทั้งหมดเดินทางมาถึง ก่อนประเมินอาการคนเจ็บ และค่อยๆลำเลียงผู้บาดเจ็บออกมาจากรถ พร้อมกับรีบนำส่ง รพ.ปราสาท ทันที
นางนิตยา ต้องถือดี อาจารย์โรงเรียนกาบเชิงวิทยา อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เปิดเผยว่า ตนเองกำลังพาลูกศิษย์ทั้ง 2 คน กลับจากไปแข่งขันทักษะวิชาการในตัวเมืองสุรินทร์ พอเดินทางกลับมาถึงที่เกิดเหตุเกิดวูบหลับใน จนรถตกถนนดังกล่าว ขณะที่ พ.ต.ท.ทรงจักร วงศ์พรม สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ปราสาท จะได้ทำการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่ชัดเจนอีกครั้ง เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
วันนี้ (14 ก.ย.62) เวลาประมาณ 14.45 น. ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ได้เดินทางกลับมาจากพื้นที่ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ระหว่างเดินทางมาถึงบริเวณถนนสายปราสาท-ช่องจอม หลัก ก.ม.ที่12 บ.หนองใหญ่ ม.2 ต.หนองใหญ่ อ.ปราสาท ก่อนถึง บ้านกระวัน ต.หนองใหญ่ ปากทางเข้าบ้านของ ร.ต.สุรพล เต๊ะซัน เลขที่ 225 ม.2 บ.หนองใหญ่ ต.หนองใหญ่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พบรถยนต์กระบะแค๊ป ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไทเกอร์ สีบรอนด์เงิน หมายเลขทะเบียน บฉ 4711 สุรินทร์ ประสบอุบัติเหตุหลับในตกลงไปในคลองข้างถนน ชนกับขอบท่อซีเมนต์ จนควันโขมง และด้านหน้ารถพังเสียหาย กระจก ร้าว ไฟหน้ารถหลุด รวมทั้งแครสซีตัวถังรถหักงอ เหลือระยะห่างเพียง 1 เมตร หวิดชนเสาไฟฟ้าขนาดใหญ่ แต่ช่วงล่างของตัวรถได้ชนกับท่อปูนซีเมนต์เสียก่อนจึงทำให้รถหยุด ก่อนที่จะชนกับเสาไฟฟ้า
ภายในรถพบนางนิตยา ต้องถือดี อาจารย์โรงเรียนกาบเชิงวิทยา อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นคนขับนั่งอยู่ในอาการเบลอๆ ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ส่วนที่บริเวณเบาะด้านข้างคนขับพบ น.ส.สุภาภรณ์ วัชรวรพันธ์ อายุ 17 นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนกาบเชิงวิทยา นอนอยู่ในสภาพเลือดไหลออกที่จมูก กรามหัก อาการสาหัส แต่ยังมีสติอยู่ คาดว่าไม่ได้รัดเข็มขัดนิรภัย ทำให้หน้าและกรามกระแทกกับคอนโทรลรถอย่างจัง ขณะที่บริเวณเบาะแค๊ปด้านหลัง พบ ด.ช.มโนมัย ต้องถือดี อายุ 10 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.4 ไม่ทราบโรงเรียน นอนแน่นิ่งอยู่ด้วยความเจ็บปวดที่บริเวณหน้าอก แต่ยังรู้สึกตัว ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะได้โทรศัพท์แจ้ง หมายเลขฉุกเฉิน 1669 ประสานกู้ชีพ อบต.หนองใหญ่, กู้ชีพ อบต.ตาเบา ,หน่วยวีอาร์กู้ชีพ จุด อ.ปราสาท เร่งเข้าไปช่วยเหลือ
ระหว่างนั้นพบรถกู้ชีพ อบต.แก อ.เมือง จ.สุรินทร์ ใหญ่ผ่านมาประสบเหตุพอดี จึงลงมาช่วยปฐมพยาบาลในเบื้องต้นก่อน จากนั้น จนท.กู้ชีพทั้งหมดเดินทางมาถึง ก่อนประเมินอาการคนเจ็บ และค่อยๆลำเลียงผู้บาดเจ็บออกมาจากรถ พร้อมกับรีบนำส่ง รพ.ปราสาท ทันที
นางนิตยา ต้องถือดี อาจารย์โรงเรียนกาบเชิงวิทยา อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เปิดเผยว่า ตนเองกำลังพาลูกศิษย์ทั้ง 2 คน กลับจากไปแข่งขันทักษะวิชาการในตัวเมืองสุรินทร์ พอเดินทางกลับมาถึงที่เกิดเหตุเกิดวูบหลับใน จนรถตกถนนดังกล่าว ขณะที่ พ.ต.ท.ทรงจักร วงศ์พรม สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ปราสาท จะได้ทำการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่ชัดเจนอีกครั้ง เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป