“3 สมาคมอสังหาฯ” ประกอบไปด้วย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร, สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดงาน “มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 41” อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2562 ที่ผ่านมาโดยมี ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมนำทัพสมาชิก ทั้งรายใหญ่ รายกลาง รายเล็ก ขนผลงานด้านที่อยู่อาศัยของโครงการต่างๆ มากกว่า 1,000 โครงการ อัดโปรโมชั่นพิเศษ หวังกระตุ้น กระตุ้นเศรษฐกิจ – เพิ่มโอกาสผู้บริโภคซื้อบ้าน – คอนโดฯ ระหว่าง 12-15 ก.ย.นี้ ชั้น 5 สยามพารากอน พร้อมวางเป้าเงินสะพัดในงาน 4,000 ล้านบาท
ทั้งนี้นายกอบศักดิ์ เปิดเผยว่า แนวทางการกระตุ้นภาคตลาดอสังหาฯในปลายปี คาดว่าภายใน 1เดือนครึ่ง จะเชิญผู้ประกอบการอสังหาฯ เข้ามาหารือประเด็นที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ รวมไปถึงมาตรการคุมเข้มสินเชื่อ หรือ แอลทีวี ตลอดจนพิจารณาความเหมาะสมในการผ่อนปรนค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ เพื่อทำให้ตลาดกลับมาฟื้นตัว อีกทั้งจะหารือกับธนาคารของรัฐ เกี่ยวกับการปรับหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อ เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น พร้อมเร่งสนับสนุนวงการเงินการปล่อยกู้โครงการบ้านล้านหลัง ในวงเงิน50,000ล้านบาท เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนอยากซื้อบ้านแต่กู้ไม่ได้ โดยคาดว่าจะมีมาตรการออกมาช่วยเหลือและพยายามออกมาให้ทันภายในสิ้นปีนี้ โดยอาจจะเป็นมาตรการที่ผ่านธนาคารของรัฐ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจอสังหาฯคึกคักมากขึ้น
นายชูรัชฏ์ ชาครกุล ประธานจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 41 กล่าวว่า จัดงานในครั้งนี้ของ 3 สมาคมฯ เชื่อว่าจะเป็นการเสริมสร้างบรรยากาศการซื้อขายให้มีความคึกคักและถือเป็นการส่งเสริมให้สมาชิกทั้งรายใหญ่ รายกลาง รายเล็ก ได้มีโอกาสนำผลงานด้านที่อยู่อาศัยของโครงการต่างๆ มากกว่า 1,000 โครงการมาเสนอขายในงานเดียว จากผู้ประกอบการที่ร่วมออกบูธกว่า 100 บูธ เพื่อให้เรื่องที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องง่าย มาที่เดียวจบ ครบทุกที่ ทุกราคา ทุกประเภท ทุกทำเล ตรงกับความต้องการเพื่อให้ผู้บริโภคและประชาชนทั่วไปที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยมีโอกาสเลือกซื้อที่อยู่อาศัยในระดับราคาที่ต่างกันมากที่สุด นอกจากนี้ภายในงานมีสถาบันการเงินชั้นนำต่างๆ ให้ความสนใจ และเสนอเงื่อนไขพิเศษด้านการให้สินเชื่อรายย่อยสำหรับผู้ที่จะซื้อที่อยู่อาศัยภายในงานอีกด้วย
สำหรับงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 41 ปีนี้จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “Amazing Deals” …. สุดยอดข้อเสนอสำหรับคนอยากมีบ้านและคอนโดฯ ระหว่างวันที่ 12 – 15 ก.ย.นี้ ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน พร้อมด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษ ที่แต่ละโครงการนำมาเสนอเฉพาะในงานเท่านั้น
ด้านเป้าหมายยอดขายในงานคาดว่าจะอยู่ที่ 4,000 ล้านบาท และจะส่งผลต่อเนื่องภายหลังงานเพิ่มขึ้นอีกภายใน1เดือนข้างหน้าประมาณ2,000-3,000ล้านบาท
คาดตลาดอสังหาฯทัังปีติดลบ 0-10%
นายอธิป พีชานนท์ ประธานคณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ออกแบบและก่อสร้างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อเศรษฐกิจที่ชะลอตัว คาดว่าจะส่งผลให้ภาพรวมตลาดอสังหาฯทั้งปี จะติดลบ0-10% หากหากหากภาครัฐไม่มีมาตรการเข้ามาช่วย ในช่วงระยะเวลาที่เหลือของปี
อย่างไรก็ตามปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจดังกล่าว ทำให้ธนาคารพาณิชย์คุมเข้มการปล่อยสินเชื่อต่อเนือง เห็นได้จากยอดปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยในครึ่งปีแรกสูงกว่า 40% และมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่ภาครัฐจะช่วยได้ คือ การให้ธนาคารของรัฐ อย่างธนาคารอาคารสงเคราะห์และธนาคารออมสิน ปล่อยกู้มากขึ้นเพื่อช่วยถ่วงดุลธนาคารพาณิชย์ที่ขณะนี้เข้มงวดกับการปล่อยสินเชื่อ รวมถึงเป็นการกระตุ้นภาคอสังหาฯได้อีกทาง
“แม้ภาพรวมอสังหาฯจะมีแนวโน้มติดลบ แต่ตนยังหวังว่าในไตรมาส 4 จะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น เช่น ปัจจัยภายนอก เช่นสถานการณ์สงครามการค้าจีน-สหรัฐฯดีขึ้น ไทยส่งออกได้มากขึ้น อาจทำให้ตลาดอสังหาฯกระเตื้องขึ้นมาได้บ้าง”
นายอธิป กล่าว
ทั้งนี้นายกอบศักดิ์ เปิดเผยว่า แนวทางการกระตุ้นภาคตลาดอสังหาฯในปลายปี คาดว่าภายใน 1เดือนครึ่ง จะเชิญผู้ประกอบการอสังหาฯ เข้ามาหารือประเด็นที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ รวมไปถึงมาตรการคุมเข้มสินเชื่อ หรือ แอลทีวี ตลอดจนพิจารณาความเหมาะสมในการผ่อนปรนค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ เพื่อทำให้ตลาดกลับมาฟื้นตัว อีกทั้งจะหารือกับธนาคารของรัฐ เกี่ยวกับการปรับหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อ เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น พร้อมเร่งสนับสนุนวงการเงินการปล่อยกู้โครงการบ้านล้านหลัง ในวงเงิน50,000ล้านบาท เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนอยากซื้อบ้านแต่กู้ไม่ได้ โดยคาดว่าจะมีมาตรการออกมาช่วยเหลือและพยายามออกมาให้ทันภายในสิ้นปีนี้ โดยอาจจะเป็นมาตรการที่ผ่านธนาคารของรัฐ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจอสังหาฯคึกคักมากขึ้น
นายชูรัชฏ์ ชาครกุล ประธานจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 41 กล่าวว่า จัดงานในครั้งนี้ของ 3 สมาคมฯ เชื่อว่าจะเป็นการเสริมสร้างบรรยากาศการซื้อขายให้มีความคึกคักและถือเป็นการส่งเสริมให้สมาชิกทั้งรายใหญ่ รายกลาง รายเล็ก ได้มีโอกาสนำผลงานด้านที่อยู่อาศัยของโครงการต่างๆ มากกว่า 1,000 โครงการมาเสนอขายในงานเดียว จากผู้ประกอบการที่ร่วมออกบูธกว่า 100 บูธ เพื่อให้เรื่องที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องง่าย มาที่เดียวจบ ครบทุกที่ ทุกราคา ทุกประเภท ทุกทำเล ตรงกับความต้องการเพื่อให้ผู้บริโภคและประชาชนทั่วไปที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยมีโอกาสเลือกซื้อที่อยู่อาศัยในระดับราคาที่ต่างกันมากที่สุด นอกจากนี้ภายในงานมีสถาบันการเงินชั้นนำต่างๆ ให้ความสนใจ และเสนอเงื่อนไขพิเศษด้านการให้สินเชื่อรายย่อยสำหรับผู้ที่จะซื้อที่อยู่อาศัยภายในงานอีกด้วย
สำหรับงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 41 ปีนี้จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “Amazing Deals” …. สุดยอดข้อเสนอสำหรับคนอยากมีบ้านและคอนโดฯ ระหว่างวันที่ 12 – 15 ก.ย.นี้ ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน พร้อมด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษ ที่แต่ละโครงการนำมาเสนอเฉพาะในงานเท่านั้น
ด้านเป้าหมายยอดขายในงานคาดว่าจะอยู่ที่ 4,000 ล้านบาท และจะส่งผลต่อเนื่องภายหลังงานเพิ่มขึ้นอีกภายใน1เดือนข้างหน้าประมาณ2,000-3,000ล้านบาท
คาดตลาดอสังหาฯทัังปีติดลบ 0-10%
นายอธิป พีชานนท์ ประธานคณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ออกแบบและก่อสร้างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อเศรษฐกิจที่ชะลอตัว คาดว่าจะส่งผลให้ภาพรวมตลาดอสังหาฯทั้งปี จะติดลบ0-10% หากหากหากภาครัฐไม่มีมาตรการเข้ามาช่วย ในช่วงระยะเวลาที่เหลือของปี
อย่างไรก็ตามปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจดังกล่าว ทำให้ธนาคารพาณิชย์คุมเข้มการปล่อยสินเชื่อต่อเนือง เห็นได้จากยอดปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยในครึ่งปีแรกสูงกว่า 40% และมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่ภาครัฐจะช่วยได้ คือ การให้ธนาคารของรัฐ อย่างธนาคารอาคารสงเคราะห์และธนาคารออมสิน ปล่อยกู้มากขึ้นเพื่อช่วยถ่วงดุลธนาคารพาณิชย์ที่ขณะนี้เข้มงวดกับการปล่อยสินเชื่อ รวมถึงเป็นการกระตุ้นภาคอสังหาฯได้อีกทาง
“แม้ภาพรวมอสังหาฯจะมีแนวโน้มติดลบ แต่ตนยังหวังว่าในไตรมาส 4 จะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น เช่น ปัจจัยภายนอก เช่นสถานการณ์สงครามการค้าจีน-สหรัฐฯดีขึ้น ไทยส่งออกได้มากขึ้น อาจทำให้ตลาดอสังหาฯกระเตื้องขึ้นมาได้บ้าง”
นายอธิป กล่าว