เมื่อวันที่ 11 ก.ย.62 ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ฤทธิ์ ทองดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพุคา อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี นำพนักงาน พร้อมด้วยชาวบ้าน ,นักเรียน ในท้องที่ตำบลพุคา ประกอบกิจกรรมการกวนขนม “กระยาสารท” บุญสารทลาวหลวง โดยนิมนต์พระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่พิธีการกวนขนม “กระยาสารท” บุญสารทลาวหลวง เพื่อเป็นการรักษาวัฒนธรรม และประเพณีท้องถิ่น ให้สืบสานต่อไปให้เยาวชนได้ร่วมสืบสาน อนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น ถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นให้กับเยาวชนรุ่นหลัง ได้สืบสานต่อไป และเพื่อส่งเสริมให้ชุมชนได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ก่อให้เกิดความสมัครสมานสามัคคี ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ฤทธิ์ ทองดี เปิดเผยว่า ประเพณีสารทลาว มีขึ้นในเดือน 10 ขึ้น 15 ค่ำของทุกปี อันเป็นประเพณี วัฒนธรรมที่มีเอกรักษ์เฉพาะกลุ่ม ซึ่งจะมีการกวนกระยาสารทและจัดหาผลไม้ ประกอบพิธีบุญตามประเพณี และยังเป็นของฝากนำไปไหว้ญาติผู้ใหญ่ที่อยู่ห่างไกลนับได้ว่าเป็นงานบุญประเพณี โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณของบรรพชนและญาติที่ล่วงลับ ซึ่งได้รับการปล่อยตัวมาจากนรกที่ตนต้องจองจำอยู่เนื่องจากผลกรรมที่ตนได้เคยทำไว้ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยจะเริ่มปล่อยตัวจากนรกในทุก วันแรม 1 ค่ำเดือน 10 เพื่อมายังโลกมนุษย์โดยมีจุดประสงค์ในการมาขอส่วนบุญจากลูกหลานญาติพี่น้อง ที่ได้เตรียมการอุทิศไว้ให้เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ล่วงลับ หลังจากนั้นก็จะกลับไปยังนรก ในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ช่วงระยะเวลาในการประกอบพิธีกรรมของประเพณีสารทเดือนสิบจะมีขึ้นในวันแรม 1 ค่ำ ถึงแรม 15 ค่ำเดือนสิบของทุกปี โดยในส่วนใหญ่แล้วจะตรงกับเดือนกันยายนเชื่อกันว่า บรรพบุรุษปู่ ย่า ตา ยาย และญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว หากทำความดีไว้เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ จะได้ไปเปิดในสรวงสวรรค์ แต่หากทำความชั่วจะตกนรกกลายเป็นเปรต ต้องทุกข์ทรมานในอเวจี ต้องอาศัยผลบุญที่ลูกหลานอุทิศกุศลไปให้ในแต่ละปีมายังชีพ ดังนั้นในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 คนบาปทั้งหลายที่เรียกว่าเปรตจึงถูกปล่อยตัวกลับมายังโลกมนุษย์ เพื่อมาขอส่วนบุญจากลูกหลาน แล้วจะกลับไปนรกในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ซึ่งถือเป็นคติและเชื่อสืบกันมาว่า ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว จะมีโอกาสได้กลับมารับส่วนบุญจากญาติพี่น้องที่ยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้น จึงมีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ญาติในวันนี้