เมื่อเวลา 09.00 น.ของวันนี้ (10 ก.ย.62) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎกาญจนบุรี ว่าที่ร้อยโท อำนาจ รูปสม ประธานสภากัญชาแห่งประเทศไทย สาขากาญจนบุรี จับมือกับทางมหาวิทยาลัยราชภัฎกาญจนบุรี จัดประชุมเชิงการศาสตร์กัญชาพืชสมุนไพร การทำประชาพิจารณ์ พ.ร.บ. พืชเศรษฐกิจ ร่วมกับสภากัญชาแห่งประเทศไทย สาขากาญจนบุรี อาสาสมัครเกษตรกรจังหวัดกาญจนบุรี อาสาสมัครทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมกาญจนบุรี โดยวัตถุประสงค์การประชุมเพื่อให้ความรู้แก่เกษตรกรจาก 5 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี อยุธยา และจังหวัดอ่างทอง โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 1 พันคน เพื่อประชุมเรื่องพืชกัญชา โดยมี ผศ.เชิดชาย ดวงภมร รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎกาญจนบุรี ดร.จรูญ ลาภจิตร รองประธาน สภากัญชาแห่งประเทศไทย รักษาการเลขาธิการสภากัญชาแห่งประเทศไทย ดร.ชนิดาภา คำชาลี เลขานุการประธานสภากัญชาแห่งประเทศไทย นาวาโท ดร.สุปัญญา จันทร์เพ็ญศรี นายปวิช พรหมมานพ ประธานสภากัญชาแห่งประเทศไทยเขตจังหวัดราชบุรี รับผิดชอบดูแลใน 5 จังหวัด มาเป็นวิทยากรให้ความรู้ทั้งทางด้านกฎหมาย ไปจนถึงการตลาด โดยเฉพาะกัญชาสายพันธุ์ที่ดีที่สุดคือ สายพันธุ์เกริงกระเวีย ซึ่งอยู่ในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ และที่อำเภอไทรโยค ของจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งได้รับการวิจัยออกมาแล้วจากหลายสถาบันจนเป็นที่ยอมรับ ว่าที่ร้อยโท อำนาจ รูปสม ประธานสภากัญชาแห่งประเทศไทย สาขากาญจนบุรี กล่าวว่า "การรวมกลุ่มของรากหญ้าซึ่งเป็นเกษตรกรจริงๆ เพื่อเข้าร่วมโครงการปลูกพืชสมุนไพรกัญชา โดยแกนนำมาจากภาคเกษตรทั้งหมด มาร่วมกลุ่มวางแผนวิจัยการปลูกพืชสมุนไพรกัญชา ในระบบให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของทางภาครัฐ ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งได้ดำเนินการมาเป็นระยะเวลาหนึ่งตามขั้นตอน ก่อนจะถึงขั้นทำ MOU กับสถาบันของรัฐ อย่างไรก็ดีขั้นตอนต่างๆ ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายทั้งหมด และทางสภาฯ ได้ดำเนินการทำรายเซ็นกับทางมหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐม เพื่อให้เป็นวิถีแนวทางกัญชา ที่ได้มาดำเนินการเรื่องพืชสมุนไพรกัญชา ในจังหวัดกาญจน์ เพราะพืชสมุนไพรกัญชา เกริงกระเวีย ของอำเภอทองผาภูมิ อยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก ที่รักษาโรคมะเร็งได้ดีที่สุด และกำลังหาค่ายีนส์ หาค่าเอกลักษณ์ของคนเมืองกาญจน์ เพื่อให้เป็นสมบัติของคนเมืองกาญจน์ตลอดไป เราจะรักษาคุณภาพของสายพันธุ์ให้มีคุณภาพมาตรฐาน ขณะที่ตนเองได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับพืชสมุนไพรกัญชา เหล่านี้ ได้มีชาวต่างประเทศอังกฤษ ได้ติดต่อเดินทางมาหาแล้วพูดคุยกัน แล้วตั้งชื่อว่าสายพันธุ์ TIGER CANNARI qrenq kraviar เพื่อใช้พัฒนาสายพันธุ์เกริงกระเวีย ของเรา หากได้ทางสถาบันมาร่วมในการศึกษา มีการพัฒนาสายพันธุ์ให้แก่เกษตรกร แพทย์สมุนไพร หากโครงการได้ปลูกพืชสมุนไพรกัญชา แล้วจะทำการสร้างโรงพยาบาลสมุนไพร เพื่อรักษาให้แก่ชาวบ้าน โดยมีแหล่งทุน 3 แหล่ง 1 ต่างประเทศ 2 เงินกู้ 3 จากสมาชิกร่วมลงทุน เราได้ช่วยเหลือสังคม ชุมชน ภาคการเกษตร ทุกภาคส่วน เมื่อกฎหมายปลดล็อค เราก็สามารถดิวการค้ากับต่างประเทศ สมาชิกที่ปลูกพืชสมุนไพรกัญชา สามารถที่จะยืนหยัดอยู่ได้ หากโรคที่สามารถรักษาได้ 40 โรค และโรคที่ 41 คือโรคทรัพย์จาง เกษตรกรทุกคนก็จะยิ้มได้ เกษตรกรที่เข้าร่วมในโครงการครั้งนี้ ทุกคนมีความรู้สึกว่าเราจะสามารถปลูกได้ไหม ปลูกได้อย่างไร หากไม่ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ท่านจะไม่ได้ปลูกอย่างแน่นอน และกลุ่มที่ปลูกได้มีอยู่ 4 กลุ่มคือ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มสังคม กลุ่มสหกรณ์ และกลุ่มแพทย์แผนไทย เพื่อการวิจัย เมื่อคน 4 กลุ่มนี้ ทำตามกระบวนการ ทำ MOU กับทางสถาบันของภาครัฐแล้ว จากหลายกลุ่มตามขบวนการ ฝากไปถึงสมาชิกทุกท่านขอให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเดียว อย่าใจร้อนไปปลูก หากใจร้อนไปปลูกท่านจะผิดกฎหมายแน่นอน ต้องใจเย็นๆ การทำ MOU จนกว่าจะผ่านขั้นตอนต่อไป