ไทยนำอาเซียนร่วมถกคู่เจรจา 11 ประเทศทบทวน FTA ลดภาษีเหลือ 0% เพิ่มมูลค่าการค้า พร้อมพิจารณาประเด็นใหม่ให้สอดคล้องตามความเหมาะสมของสภาพภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์เปิดเผยว่า ได้เป็นประธานการประชุมอาเซียนคู่เจรจา 11 ประเทศประกอบด้วย ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์สหรัฐอเมริกา แคนาดา อินเดีย และรัสเซีย ซึ่งประเด็นและเนื้อหาการเจรจาได้มีการหยิบยกพร้อมทบทวนข้อตกลงภายใต้การเจรจาเปิดเขตการค้าเสรี หรือ FTA ที่อาเซียนทำไว้กับประเทศต่างๆ และมีผลบังคับใช้แล้วกว่า 10 ปี แต่เนื่องจากมีรายการสินค้าหรือบริการบางรายการที่ยังไม่สามารถลดภาษีเหลือร้อยละ 0 ได้ หรือการเจรจามีความคืบหน้าในสินค้าอ่อนไหวของบางประเทศที่ยังลดภาษีไม่ได้ตามกรอบเวลาเช่น จีน เกาหลีใต้ และอินเดียให้มีความคืบหน้าโดยเร็ว ทั้งนี้ต้องพิจารณาประเด็นใหม่ให้สอดคล้องตามความเหมาะสมของสภาพภาวะเศรษฐกิจ อาทิ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ พิธีการศุลกากร การติดตามการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้กรอบการเจรจาที่ควรใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด ทำให้ภาพรวมการค้าระหว่างอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาสามารถขยายการค้าและความร่วมมือต่าง ๆ ได้มากขึ้นกันต่อไป สำหรับผลการหารือกรอบอาเซียนกับประเทศจีนนั้น ที่ประชุมยินดีที่ประเทศสมาชิกได้ให้สัตยาบันต่อพิธีสารยกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียนจีนครบแล้ว รวมทั้งเริ่มบังคับใช้กฎหมายเฉพาะฉบับใหม่เมื่อเดือนส.ค.62 และยินดีที่อาเซียนและจีนตกลงจะเริ่มหารือเปิดตลาดสินค้าเพิ่มเติมและการเปิดเสรีและปกป้องการลงทุนปีหน้า ตลอดจนการพิจารณาความร่วมมือสาขาอื่นๆ เพื่อยกระดับความร่วมมือภายใต้กรอบความตกลงอาเซียนจีนต่อไปและที่ประชุมชื่นชมต่อการให้ความช่วยเหลือของจีนในการสนับสนุนความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียนและการบูรณาการผ่านโครงการต่างๆ และยินดีกับความพยายามอย่างต่อเนื่องในการเชื่อมโยงข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางกับแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกัน โดยจีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของอาเซียน มีมูลค่าการค้ารวมกว่า 479,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 17 ของการค้ารวมของอาเซียน ที่ประชุมเห็นควรให้ยกระดับความร่วมมือ 3 เรื่องคือ การเปิดตลาดสินค้าเพิ่มเติม การปรับปรุงกฎถิ่นกำเนิดสินค้าให้มีความทันสมัยเหมาะสมกับการค้ายุคใหม่และเตรียมเปิดเสรีทางด้านการลงทุน ขณะที่ประเทศไทยเสนอขอใช้เงินกองทุนช่วยสนับสนุนการดำเนินการของอาเซียน 3 โครงการ มูลค่าประมาณ 130 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯประกอบด้วยโครงการการพัฒนาเส้นทาง R3A ซึ่งจะสามารถเชื่อมโยงจากคุนหมิง-เชียงราย เป็นการเพิ่มโอกาสการค้าข้ามพรมแดนระหว่างกันมากขึ้น โครงการพัฒนานักธุรกิจรุ่นใหม่และโครงการสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ระหว่าง CLMVT ซึ่งทางประเทศจีนได้รับปากนำไปพิจารณา