นับตั้งแต่โลกก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับวงการการศึกษาทั่วโลก สถาบันการศึกษาต้องเร่งปรับกระบวนการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับโลกยุคใหม่ ครูต้องปฏิวัติห้องเรียนแบบเก่าสร้างห้องเรียนนักคิด เพื่อสร้างทักษะการเรียนรู้ให้เด็กๆ พร้อมสำหรับใช้ชีวิตในโลกแห่งอนาคตที่ไม่อาจคาดเดา
บริษัท อักษร เอ็ดดูเคชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ออกแบบนวัตกรรมและกระบวนการเรียนรู้แนวใหม่ ได้ร่วมบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับโรงเรียนเทศบาล 1 วัดพระงาม (สามัคคีพิทยา) จ.นครปฐม นำองค์ความรู้ที่ตกผลึกจากสำนักวิจัย พัฒนา และวางแผนงานวิชาการของอักษรมาทดลองปรับใช้จริง เพื่อสร้างห้องเรียนนักคิด มุ่งสู่ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ที่ไม่ได้แค่วัดผลจากผลคะแนนการสอบที่สูงลิ่ว แต่หวังให้เด็กเชื่อมโยงความรู้สู่ชีวิตประจำวันต่อยอดสู่การเรียนรู้อย่างยั่งยืน ตอบรับกับทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
นายตะวัน เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อักษรฯ กล่าวว่า แม้โครงการวิจัยจริง จะต้องใช้เวลาถึง 3 ปี แต่หลังผ่านไปเพียง 1 ปี กลับพบผลลัพธ์ที่น่าพอใจ สิ่งที่เปลี่ยนไปนอกจากบรรยากาศในชั้นเรียนที่สนุกขึ้น นักเรียนและครู มีความสุขกับการเรียนรู้ กระบวนการสอนในห้องเรียนยังเน้นมีปฏิสัมพันธ์ พูดคุยแลกเปลี่ยนกันระหว่างคุณครูและนักเรียนมากขึ้น
ที่สำคัญทำให้คุณครูรู้สึกว่าการสอนแบบ Active Learning ทำได้จริง โดยไม่เป็นภาระกับครู
“จากที่ได้พูดคุยกับน้องๆ นักเรียน รู้สึกได้เลยว่าน้องๆ มั่นใจ กล้าพูด กล้าแสดงออก ขณะที่คุณครูเล่าให้ฟังว่าที่เป็นแบบนี้ เนื่องจากตลอดปีการศึกษาที่ผ่านมา ใช้กระบวนการเรียนการสอนที่อักษรนำเข้ามาพร้อมประยุกต์ให้เข้ากับบริบทห้องเรียน ทำให้เด็กๆ ได้ฝึกเรียนรู้แบบได้คิด สร้างสรรค์ ร่วมลงมือทำ และนำเสนอไอเดียตัวเอง
ดีใจที่อย่างน้อยสิ่งที่อักษรทำได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในห้องเรียน เกิดประโยชน์ต่อนักเรียน ครู และโรงเรียน ตอกย้ำความเชื่อของอักษรที่มุ่งมั่นเปลี่ยนห้องเรียนธรรมดาๆ ทั่วประเทศให้กลายเป็นห้องเรียนสมัยใหม่ เปี่ยมด้วยการเรียนรู้ อยากรู้อยากเห็นด้วยกระบวนการสอนที่ดี สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ในฝันให้เกิดในโรงเรียนแสนธรรมดา โดยตั้งใจจะต่อยอดห้องเรียนในฝันให้เกิดขึ้นในโรงเรียนทั่วประเทศ”
ด้าน ดร. แสงรุ้ง พูลสุวรรณ ที่ปรึกษาสายงานวิชาการ บริษัท อักษรฯ เผยถึงที่มาของงานวิจัยครั้งนี้ว่า เริ่มต้นตั้งแต่ปี 57 เป็นเพียงโปรเจ็กต์เล็กๆ ที่ต้องการผลักดันให้คุณครูเห็นว่า Active Learning สามารถช่วยให้นักเรียนมีผลการเรียนที่ดีขึ้น นักเรียนมีปฏิสัมพันธ์กับคุณครู ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ทำให้เด็กอยากเรียนรู้
แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของซีอีโอที่ต้องการขยายผลงานวิจัยนี้ ซึ่งสะท้อนถึงผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้น นำร่องด้วยการขอความร่วมมือจากโรงเรียน ครู เพื่อนำแผนจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย ซึ่งเป็นกลุ่มวิชาพื้นฐานที่พัฒนาขึ้นมาปรับใช้ นำร่องใน 3 ระดับชั้น ได้แก่ ป.1 ป.4 และ ม.1 โดยใช้เวลาวิจัยต่อเนื่อง 3 ปี
“ความท้าทายของโปรเจ็กต์นี้ คือ ปกตินักวิจัยจะทดลองเอง แต่ครั้งนี้ต้องฝากความหวังไว้กับคุณครูเป็นนางเอกคนสำคัญนำสิ่งที่ทีมวิจัยคิดและพัฒนาไปประยุกต์กับบริบทห้องเรียนเพื่อก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ซึ่งต่อให้งานวิจัยดีแค่ไหน ผลสัมฤทธิ์ในวันนี้คงไม่มีทางเกิดขึ้นได้ หากไม่ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
ขณะที่ นางนิรมล วิบูลมงคล ผู้อำนวยการ โรงเรียนเทศบาล 1 วัดพระงาม เสริมว่า เป็นครั้งแรกที่โรงเรียนได้ทำบันทึกความร่วมมือกับเอกชน เพราะเห็นว่าสอดคล้องกับนโยบายโรงเรียนที่เน้นผลสัมฤทธิ์ผู้เรียน โดยอาศัยแผนเรียนรู้ที่ผ่านวิธีคัดกรอง ผสมผสานทักษะศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นทักษะชีวิตที่เด็กสังกัดท้องถิ่นต้องพัฒนามากขึ้น
“ประเด็นสำคัญที่สุดที่โรงเรียนให้ความสำคัญคือ มองที่ตัวเด็กและสิ่งที่โรงเรียนและครูทั้ง 3 กลุ่ม สาระการเรียนรู้จะได้รับ ไม่ว่าจะเป็น ต้นแบบการเรียนรู้ที่อักษรผลิตให้ครูได้ใช้ เทคนิคการสอนที่หลากหลาย เน้นศักยภาพผู้เรียน ประเมินความก้าวหน้า ทั้งหมดนี้คือเหตุผลสำคัญที่โรงเรียนตัดสินใจรับโครงการอักษรเข้ามา
หลังจาก 1 ปีผ่านไป สิ่งที่พบคือ พฤติกรรมนักเรียนเปลี่ยนไป สามารถร่วมกิจกรรมกลุ่มได้ดี ทำงานเป็นทีมเก่งขึ้น ยอมรับบทบาทผู้นำและผู้ตาม กล้าแสดงออก
ที่สำคัญผลประเมินความสามารถในการอ่าน (Reading Test : RT) ปีการศึกษา 2560-2561 ระดับโรงเรียนในปีการศึกษาที่ผ่านมา ในระดับโรงเรียน นักเรียนมีผลคะแนนเฉลี่ยด้านการอ่านในปีการศึกษา 2561 สูงกว่าปีการศึกษา 2560 โดยเฉพาะการอ่านเอาเรื่อง” ผอ.โรงเรียนทิ้งท้าย