หนุ่มวัย 38 เล่านาทีถูกหมีป่าแม่ลูกอ่อนทำร้าย ขณะเข้าไปรับจ้างกรีดยางในสวนใกล้ป่าดงใหญ่บุรีรัมย์ เคราะห์ยังดีแม่และน้องชายที่ไปด้วยวิ่งเข้ามาช่วยทัน ทำให้รอดชีวิตมาได้หวุดหวิด เผยหลังมีเหตุช้างป่าทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิตหลายคน ก็ระวังตัวตลอดแต่ไม่คิดจะเจอกับตัวเอง ขณะอำเภอแจ้งเตือนชาวบ้านหลีกเลี่ยงเข้าป่าหวั่นเกิดเหตุซ้ำ (8 ก.ย.62) จากกรณีที่มีหมีป่าแม่ลูกอ่อนจากป่าดงใหญ่ ออกมาทำร้ายชาวบ้าน ขณะเข้าไปกรีดยางพาราที่บริเวณชายป่าบ้านดงใหญ่ ม.13 ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ จนได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนขวา และกระดูกมือด้านซ้ายหัก ถูกส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลนางรอง ล่าสุดนายสุขุม หอยสังข์ หรือน้อย อายุ 38 ปี ชาวบ้านที่ถูกหมีป่าทำร้าย ซึ่งยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนางรอง ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนเองพร้อมแม่ และน้องชายรวม 3 คน ได้เข้าไปรับจ้างกรีดยางพารา และหยอดน้ำกรดต้นยาง ให้กับเจ้าของสวนที่รับจ้างทำมานานเกือบ 1 ปีแล้ว เนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ซึ่งตนเองทราบดีว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ใกล้กับเขตป่าดงใหญ่ และที่ผ่านมาก็มีข่าวว่าชาวบ้านถูกช้างป่า หมีป่า และกระทิง ทำร้ายชาวบ้านทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิตมาแล้วหลายครั้ง ก็จะระมัดระวังตัวตลอด ซึ่งก่อนหน้านี้จะเข้าไปกรีดยางคนเดียว โดยทุกครั้งที่ไปทำงานจะเดินสำรวจรอบๆสวนยางก่อน เพื่อเป็นการระวังสัตว์ป่าที่อาจจะออกมาหากินนอกเขตป่า แต่วันเกิดเหตุน้องชาย และแม่ไปช่วยกรีดยางด้วย โดยก่อนจะลงมือทำงาน ตนเองก็ได้แบ่งหน้าที่กันว่าใครจะตรงไหนบ้าง ระหว่างนั้นก็ได้ถือมีดเดินสำรวจรอบๆป่าอีกรอบ แต่ระหว่างเดินไปก็เจอพงหญ้าที่มีลักษณะเหมือนที่อยู่ของสัตว์ จึงใช้อุปกรณ์ถางหญ้าที่บริเวณนั้นออก อยู่ๆ ก็มีเสียงคำรามดังขึ้น ตอนนั้นตนไม่ทราบว่าเสียงของอะไร จึงรีบวิ่งออกมาได้เพียง 5 เมตร ก็เสียหลักล้มลง แล้วเห็นหมีป่าตัวสูงประมาณ 1 เมตร น้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม กระโจนออกมาจากพงหญ้าคร่อมตัวไว้แล้วพยายามจะใช้ปากกัด ตนจึงใช้มือกำปากหมีเอาไว้ สู้กันอยู่ประมาณ 5 นาที ตนถูกกัดที่มือและที่แขนจนเลือดไหล ขณะที่ตนกำลังสู้กับหมีป่า นายประวิทย์ หอยสังข์ น้องชาย อายุ 35 ปี และนางทองพูน หอยสังข์ อายุ 57 ปี ผู้เป็นแม่ ได้ยินเสียง จึงวิ่งเข้าไปช่วยไล่หมีออก จนหมียอมปล่อยและเดินหนีกลับเข้าป่าไป จากนั้นแม่และน้องก็รีบพาตนเองส่งโรงพยาบาล จากการตรวจสอบพบว่า กระดูนิ้วชี้ และนิ้วกลาง แตกหัก หมอได้ดามเหล็กไว้ และแขนขวาเย็บอีกหลานเข็ม ซึ่งขณะนี้อาการเริ่มดีขึ้นแล้วแต่ก็ยังหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งหากวันนั้นแม่ของน้องชายไม่ได้ไปกรีดยางด้วย และเข้าไปช่วยไม่ทันก็อาจจะเสียชีวิตไปแล้ว จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางเจ้าของสวนก็ได้มาเยี่ยมและดูแลค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น ขณะที่ทางอำเภอ ก็ได้กำชับให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ได้ประชาสัมพันธ์เสียงตามสายให้ชาวบ้านทราบโดยทั่วกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าป่าในช่วงนี้ เพราะหมีอาจจะยังหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุอยู่ พร้อมกันนี้ยังได้ประสานงานเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ ร่วมกับผู้นำชุมชน เพื่อออกลาดตระเวน และผลักดันให้หมีป่ากลับคืนเข้าสู่ผืนป่าดงใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีก