เสมา 1 ลุยพื้นที่ ส.ส.พท. พบปะครู รับปากแก้ปัญหาค้างเงินเดือนครู ภารโรง สายพปชร.ตบเท้ารับ กำชับผู้บริหาร เข้มทุจริตอาหารกลางวัน ชูต่ออายุเกษียณ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 กันยายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สนามแข่งเรือลำน้ำบัง ต.พระซอง อ.นาแก จงนครพนม นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมคณะ ลงพื้นที่เป็นประธานในการเปิดงานประเพณีแข่งขันเรือยาวประเพณี ของ ต.พระซอง อ.นาแก ซึ่งเป็นงานประเพณีจัดขึ้นทุกปี เพื่อสนับสนุนการสืบสานประเพณี ตลอดจนพบปะเยี่ยมเยือน ชาวบ้าน ให้กำลังใจประชาชน ที่ประสบปัญหาน้ำท่วม
โดยพื้นที่ดังกล่าว ถือเป็น ฐานที่มั่น ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ชนะการเลือกตั้งมาทุกสมัย ในครั้งนี้ มีแกนนำสายการเมือง พรรคพลังประชารัฐ ประกอบด้วย นายชูกัน กุลวงษา อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขต 4 นครพนม รวมถึง นายแพทย์ อลงกต มณีกาศ อดีต ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขต 3 น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม อดีต ผู้สมัคร ส.ส.พลังประชารัฐ เขต 2 นครพนม ดร.สมชอบ นิติพจน์ นายก อบจ.นครพนม นายชัยมงคล ไชยรบ นายก อบจ.สกลนคร รวมถึงนักการเมือง ที่ให้การสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ นำแกนนำชาวบ้าน ร่วมให้การต้อนรับ นอกจากนี้ยัง มี นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม นำข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา บุคลากรทางการศึกษา ให้การต้อนรับ และร่วมพิธีการเปิดงาน ที่สำคัญ ยังมี ดร.ไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 3 นครพนม และยัง เป็น ส.ส.แชมป์ตลอดกาล 10 สมัย ร่วมต้อนรับ
ภายหลังการเปิดงาน ได้เดินทางไปยัง โรงเรียนนาแกสามัคคี อ.นาแก จ.นครพนม เพื่อพบผู้บริหารสถานศึกษา ข้าราชการ ครู บุคลากรทางการศึกษา ผู้นำท้องถิ่น ในพื้นที่ อ.นาแก จ.นครพนม เพื่อรับทราบปัญหา มอบนโยบายให้กำลังใจ โดยมี นายศรี ศรีพุทธรินทร์ นายอำเภอนาแก ร่วมกับ ผู้นำชุมชนท้องถิ่น ตัวแทนชาวบ้าน รวมถึง นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย เขต 4 ร่วมให้การต้อนรับ ทั้งนี้ได้มี นายชูกัน กุลวงษา อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ย้ายพรรคมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ และลงสมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ แต่พ่ายการเลือกตั้ง เดินทางมาต้อนรับ และพบปะชาวบ้าน ในครั้งนี้ด้วย
จากนั้น เมื่อเวลา 14.00 น. ฯพณฯ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เดินทางไปที่ อาคารศรีโคตรบูรณ์ มหาวิทยาลัยนครพนม เพื่อเป็นประธานเปิดการประชุมมอบนโยบาย รับทราบปัญหา มี ผู้บริหารสถานศึกษา บุคลากรทางการศึกษา เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ในสังกัดกระทรงศึกษา กว่า 1,000 คน มาให้การต้อนรับ และร่วมประชุมรับทราบปัญหา มี นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม พร้อมด้วย นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองประธานสภาผู้แทน คนที่ 2 นำข้าราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ตัวแทนชาวบ้าน และเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ให้การต้อนรับ
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ในวันนี้รู้สึกดีใจที่ได้ลงพื้นที่พบปะให้กำลังใจชาวบ้าน ในพื้นที่ จ.นครพนม ซึ่งบางส่วนกำลังประสบปัญหาน้ำท่วม โดยทาง นายกรัฐมนตรี ได้ฝากความห่วงใย มาถึงประชาชน และยืนยันว่า รัฐบาลจะเร่งดูแลช่วยเหลือประชาชน ที่เดือดร้อน ที่สำคัญได้มีโอกาเดินทางมาพบปะผู้บริหารสถานศึกษา บุคลากรทางการศึกษา เจ้าหน้าที่ รวมถึงทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการศึกษา ซึ่งได้เน้นย้ำให้ช่วยกันดูแล พัฒนาการศึกษา โดยเน้นภาพรวมที่คุณภาพการศึกษาของลูกหลานเยาวชนเป็นหลัก ไม่ได้ชี้วัดจากสิ่งหนึ่งสิ่งใด และจะต้องคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม ไม่ได้ยึดติดว่าจะต้องเป็นสถานศึกษาที่หนึ่งที่ใด ส่วนปัญหาควบรวมยุบโรงเรียนขนาดเล็ก ยืนยันว่า กระทรวงศึกษาธิการ จะไม่ดำเนินการ หากกระทบภาพรวม เพราะปัจจัยสำคัญต้องการชี้วัดคุณภาพการศึกษา ไม่ได้วัดที่เล็กหรือใหญ่ หรือเรื่องการสิ้นเปลืองงบประมาณ ขอให้ทุกฝ่ายทำงานเต็มที่ให้การศึกษามีคุณภาพ โดยเฉพาะ จ.นครพนม ถือว่ามีความพร้อมเรื่องการพัฒนาการศึกษา ในอนาคตจะเสนอรัฐบาล สนับสนุนให้ จ.นครพนม เป็นจังหวัดสำคัญ นำร่องด้านการพัฒนาการศึกษา ควบคู่กับการรองรับการสร้างสถานศึกษาคุณภาพ จังหวัดชายแดน เชื่อมโยงการศึกษากับประเทศเพื่อนบ้าน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษากล่าวอีกว่า ในส่วนของปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับเงินเดือนครูธุรการ ภารโรง ที่ยังมีปัญหาเงินเดือนค้างจ่าย และมีการร้องเรียน ตนยืนยันว่าได้มอบหมายให้ เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบแก้ไขได้ มีปัญหาจากระบบ การจัดสรรงบประมาณ รับปากว่าจะได้รับเงินเดือน ภายในเร็วๆ นี้ครบถ้วน นอกจากนี้ ยังมีโครงการอาหารกลางวันถือว่าสำคัญ ตนได้ฝากกำชับผู้บริหารสถานศึกษา ทุกแห่ง หมั่นตรวจสอบดูแลเอาใจใส่ เรื่องงบประมาณ คุณภาพการจัดอาหารกลางวัน เพราะเชื่อว่าหากผู้บริหารเอาใจใส่ ไม่ละเลย จะไม่มีปัญหาทุจริตแน่นอน ที่สำคัญปัจจุบัน สิ่งที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้เล็งเห็นความสำคัญที่สุด คือ เรื่องอายุราชการทำงาน เพราะในอนาคตประเทศไทยจะต้องมีการพัฒนาเรื่องสังคมผู้สูงอายุ ที่ยังมีศักยภาพในการทำงาน พร้อมเสนอต่ออายุราชการ ให้กับข้าราชการครู ถึง อายุ 65 ปี เชื่อว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลดีต่อการพัฒนาการศึกษาอย่างแน่นอน
ศูนย์ข่าวอีสานบน นครพนม