นักเรียนโรงเรียนท่ามะขามวิทยา อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ชนะการประกวดสวดโอ้เอ้ อันดับ 1 ระดับประเทศ เคยเข้าร่วมพิธีสวดรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สืบสาน และอนุรักษ์โบราณราชประเพณี ของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ไทย
น้ำเสียงอันไพเราะจากการประสานเสียงของนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1- 6 จำนวน 10 คน จากโรงเรียนท่ามะขามวิทยา อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ที่มาสาธิตการสวดโอ้เอ้ ในงานกิจกรรมปลูกต้นไม้ในวันสำคัญ ณ สวนป่า วัดพิกุลทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี
การสวดโอ้เอ้ เป็นพิธีสำคัญที่จัดขึ้นเกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณมาจนถึงปัจจุบัน
นายอภิเชษฐ์ เกตุกร ผู้อำนวยการโรงเรียนท่ามะขามวิทยา เปิดเผยว่า การสวดโอ้เอ้วิหารราย มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา และเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงบทสวด ซึ่งเดิมการสวดโอ้เอ้เป็นการเตรียมนักเรียนเพื่อจะให้เป็นนักสวด โดยเฉพาะการสวดมหาชาติคำหลวง แต่ในยุคปัจจุบันเมื่อตอนต้นสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ในรัชกาลที่ 3 พระองค์ได้เปลี่ยนให้นักเรียนสวดโดยใช้บทเรื่องกาพย์พระไชยสุริยา ซึ่งเป็นการสวดเกี่ยวกับมาตราตัวสะกด เพื่อฝึกให้เด็กมีความคล่องแคล่ว พอมายุคปัจจุบันมีการสวดที่ศาลารายเฉพาะในงานพระราชพิธี โดยการสวดโอ้เอ้นั้นเป็นการสวด เพื่อรับเสด็จพระมหากษัตริย์ในการเสด็จเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกต ซึ่งได้นักเรียนเข้าร่วมมาประมาณ 5 - 6 ปีแล้ว แต่ละปีจะมีการประกวดแข่งขัน
ปีนี้ทางโรงเรียนท่ามะขามวิทยา ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ของประเทศ ประเภททีมหญิงล้วน และยังได้รับหน้าที่รับมอบหมายจากสำนักพระราชวัง และกระทรวงวัฒนธรรมให้ไปปฏิบัติหน้าที่สวดรับเสด็จในช่วงวันเข้าพรรษา กลางพรรษาและปลายพรรษา ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โรงเรียนมีความภาคภูมิใจที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมพิธี ถือเป็นโรงเรียนแห่งเดียวในราชบุรีและเป็นไม่กี่แห่งของประเทศที่สามารถสวดบทโอ้เอ้ได้
อาจารย์นภาพร รักแคว้น ครูผู้ดูแล เปิดเผยว่า การสวดโอ้เอ้จะเริ่มการเรียนการสอนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในวิชาภาษาไทย ความยากตรงที่มีความเอื้อน มีประโยชน์ คือ เด็กจะได้มาตราตัวสะกดส่วนใหญ่ที่มาเรียนช่วงแรกจะไม่รู้สึกชอบ ฝึกการเอื้อนทีละท่อนแล้วทำไม่ได้ แต่พอได้แล้วก็ทำให้รู้สึกสนุกสนาน ได้ประโยชน์เรื่องการอ่าน คำภาษาไทยชัดเจน เด็กฝึกสมาธิในการจดจำ เวลาไปสวด แต่ละคำอักขระ การเอื้อนทุกคำจะต้องชัดเจน โดยบทสวดโอ้เอ้จะใช้กาพย์ยานี 11 เป็นการสวดเบื้องต้น หมายถึง การไหว้เทวดา ครูบาอาจารย์ บทนี้จะไม่มีตัวสะกด ต่อไปเป็นกาพย์ฉบัง 16 คือ แม่กง ใช้ ง. สะกด
จากนั้นจะใช้กาพย์สุรางคนางค์ 28 ใช้แม่กน คือ น. สะกด แบ่งเป็น 3 กาพย์ อย่างครั้งนี้ให้สวดโอ้เอ้ใช้กาพย์ฉบัง 16 มีทำนองไม่เหมือนกัน บทแรกคือ การไหว้ครูเป็นกาพย์ยานี 11 พอจบ ก็จะต่อด้วยกาพย์สุรางคนางค์ 28 ยังมีอีกหลายแม่สะกด แต่เวลาไปสวดรับเสด็จจะใช้อีกบทหนึ่ง จะใช้แม่กลม เวลาไปแข่งขันก็จะเปลี่ยนตัวสะกด แม่เกย และแม่ตัวสะกดอื่นๆเป็นต้น แต่จะไม่มีแม่เกอวในการใช้สวด เวลาสวดจะมีทำนองไม่เหมือนกันทั้ง3 กาพย์ ถ้าเป็นแม่กง จะมีทำนองสนุกๆ ถ้าเป็นกาพย์ยานี 11 จะเอื่อยๆ เป็นบทแรกที่จะสวดก่อนเพื่อไหว้ครู อาจารย์ ใช้เวลาการสวดแต่ละบทประมาณ 5 นาที
นางสาว อินทิรา สืบสุข นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เปิดเผยว่า มีประโยชน์ได้ทั้งเรื่องสมาธิ อ่านภาษาไทยคล่องมากขึ้น ใช้เวลาว่างมาสวด และฝึกซ้อมให้น้องๆ ผลการเรียนได้เกรดเฉลี่ยดี ถือเป็นความภาคภูมิใจของครอบครัวที่ได้ไปสวดโอ้เอ้ในสำนักพระราชวัง โดยเดินทางไปสวดตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และเตรียมเดินทางไปสวดโอ้เอ้อีกครั้งในวันที่ 13 ตุลาคม ช่วงปลายพรรษาในงานออกพรรษา
สำหรับเนื้อหาสาระและบทสวดโอ้เอ้วิหารรายในปัจจุบันมีเนื้อหาโดยย่อ กล่าวคือ “ มีกษัตริย์พระองค์หนึ่งมีพระนามว่าไชยสุริยาครองเมืองสาวัตถี มีพระมเหสีทรงพระนามว่า สุมาลี ครอบครองบ้านเมืองด้วยความผาสุก ต่อมาข้าราชการเสนาอำมาตย์ประพฤติตนไม่ถูกต้องตามทำนองครองธรรมจึงเกิดเหตุอาเพศ เกิดน้ำป่าไหลท่วมเมือง ผีป่าอาละวาดทำให้ชาวเมืองล้มตายจำนวนมาก พระไชยสุริยากับพระมเหสีลงเรือสำเภา แต่ก็ถูกพายุพัดจนเรือแตก พระไชยสุริยาและพระมเหสีขึ้นฝั่งได้ พระอินทร์จึงเสด็จมาสั่งสอนธรรมะให้ทั้งสองพระองค์ปฏิบัติตามธรรมจึงเสด็จไปสู่สวรรค์ ”
ถือเป็นความภาคภูมิใจของโรงเรียนท่ามะขามวิทยาที่ได้รับการตัดสินให้ชนะการประกวดการสวดโอ้เอ้ระดับประเทศ โดยโรงเรียนเตรียมนำนักเรียนไปร่วมพิธีสวดโอ้เอ้ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตามที่ได้รับมอบหมายจากสำนักพระราชวัง และกระทรวงวัฒนธรรมในช่วงเดือนตุลาคมนี้



