บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถยนต์นั่งยอดนิยมของคนไทย “โคโรลล่า อัลติส” ใหม่ ที่เร้าใจด้วยดีไซน์ภายนอกอันโดดเด่นเหนือใคร เส้นสายหนักแน่นเด่นชัดรอบคัน แสดงให้เห็นถึงความแข็งแรง ภายในกว้างขวาง ทันสมัย ใส่ใจในทุกรายละเอียดของการตกแต่ง ให้ความรู้สึกเรียบหรู อีกทั้งยังออกแบบ โดยคำนึงถึงความสะดวกสบายในการใช้งานของผู้ขับขี่และผู้โดยสารเป็นหลัก เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชันการใช้งานของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ครบครัน ด้านสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นเกินใคร จากสถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ TNGA (Toyota New Global Architecture) ให้ความสนุกสนานในการขับขี่อย่างเต็มที่ (Fun-to-drive) สร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร พร้อมมั่นใจในทุกสถานการณ์การขับขี่ ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้ารุ่นล่าสุด (Toyota Safety Sense) และยิ่งไปกว่านั้นถือเป็นครั้งแรกของโคโรลล่า อัลติส ใหม่ ที่มาพร้อมกับระบบไฮบริดรุ่นล่าสุด ในเจเนอเรชั่นที่ 4 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในอัตราการเร่งที่ดีขึ้น และสามารถประหยัดน้ำมัน ได้สูงสุด ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าชาวไทยได้อย่างสมบูรณ์แบบ ถือเป็นยนตรกรรมที่ก้าวข้ามสู่ขีดสุด ที่เหนือกว่า มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า “โคโรลล่า ได้สร้างตำนานในฐานะรถยนต์โตโยต้ามาแล้วมากกว่า 50 ปี นับตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงรุ่นล่าสุด เรายังคงรักษาไว้ซึ่งพื้นฐานอันสำคัญทางด้านคุณภาพ ความทนทาน และความน่าเชื่อถือที่ไม่มีใครเทียบ โดยโคโรลล่ารุ่นแรก เริ่มผลิตในญี่ปุ่นตั้งแต่ปีพ. ศ. 2509 และได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในประเทศญี่ปุ่น จึงทำให้กลายเป็นรถยนต์ที่มียอดขายสูงสุดภายในสามปีและแพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันนี้มียอดขายสะสมมากกว่า 47 ล้านคันทั่วโลก ซึ่งรถยนต์โคโรลล่าหนึ่งคันจะถูกขายทุกๆ 15 วินาที ในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก ถือเป็นรถยนต์ที่ขายดีที่สุดสำหรับโตโยต้าทั่วโลก ในประเทศไทย โคโรลล่า เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อปี พ. ศ. 2509 ด้วยเช่นกัน จากผลตอบรับอย่างท่วมท้นของลูกค้าชาวไทย ในช่วงกว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา โคโรลล่าสามารถครองความนิยมในฐานะรถยนต์นั่งที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดในประเทศไทย และเดินเคียงข้างกับคนไทยอย่างแท้จริง ด้วยยอดขายสะสมกว่า 800,000 คัน ในฐานะที่โคโรลล่าเป็นรถซีดานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดรุ่นหนึ่งในประเทศไทย ทำให้ความคาดหวังของลูกค้าที่มีต่อรถรุ่นนี้สูงขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นแรงบันดาลใจให้เราสรรสร้าง ยนตรกรรมที่ดียิ่งกว่า เพื่อตอบสนองความต้องการที่เหนือความคาดหมายของลูกค้าของเรา และในวันนี้ผมมีความยินดีที่จะแนะนำโคโรลล่า อัลติส ใหม่ ในรุ่นที่ 12 อย่างเป็นทางการ ซึ่งรถรุ่นนี้จะเปลี่ยนความคิดของทุกท่านที่มีต่อโคโรลล่าอย่างสิ้นเชิงและจะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับในกลุ่มนี้อย่างแน่นอน โคโรลล่า อัลติส รุ่นใหม่นี้ ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ไฮบริดเจนเนอเรชั่นที่ 4 ซึ่งมีประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันสูงสุด ด้วยอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันที่ 23 กิโลเมตรต่อลิตร โดยมีให้เลือกถึงสามรุ่น เรามีความยินดีที่จะแจ้งให้ทราบว่า รถรุ่นนี้ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดแบบเต็มรูปแบบคันแรกในตลาดนี้ สำหรับประเทศไทย และเมื่อไม่นานมานี้ เราเพิ่งฉลองความสำเร็จ 10 ปีรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดในประเทศไทย พร้อมกับการเปิดตัวโครงการการบริหารจัดการแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดใช้แล้วแบบครบวงจร โตโยต้า เราขอแสดงความขอบคุณรัฐบาลไทย ที่มีนโยบายในการส่งเสริมยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบของเราในครั้งนี้จะส่งผลดีต่อการใช้รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด รวมไปถึงการเดินทางสารธารณะอีกด้วย เราเชื่อว่าการแพร่หลายของเทคโนโลยีไฮบริดไฟฟ้าถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญต่อการมุ่งไปสู่การขยายตัวของรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต และ ยังแนะนำ รุ่นสปอร์ตใหม่“ Corolla Altis GR-Sport” ที่พัฒนาภายใต้แนวคิด“ Gazoo Racing Sport” โดยรุ่น GR-Sport นี้จะมาพร้อมกับแพ็คเกจพิเศษซึ่งจะเพิ่มแอโรไดนามิกและจะมอบความตื่นเต้นเร้าใจในการขับขี่สูงสุดให้กับลูกค้า ส่วนทางด้าน นายรุ่งโรจน์ ขันชะลี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวเสริมอีกว่า การพัฒนาผลิตภัณฑ์ในครั้งนี้ ยังคงรักษาไว้ซึ่งแกนหลักของความเป็นรถยนต์โคโรลล่า โดยมีการพัฒนารถยนต์เพื่อให้ทุกๆคนได้รู้สึกสนุกสนานไปกับประสบการณ์ที่ได้รับจากการขับขี่ อีกทั้งยังคงเป็นรถที่มีคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่น ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี ซึ่งโคโรลล่า อัลติส ใหม่ มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมยานยนต์ TNGA ก่อให้เกิดการพัฒนาครั้งใหญ่ และเป็นรถที่ดีกว่าเดิมอย่างก้าวกระโดด โดยในครั้งนี้ โคโรลล่า อัลติส ใหม่ ได้รับการพัฒนาให้มี 5 จุดขายหลัก ได้แก่ 1.ด้านการออกแบบ – ภายนอกได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Shooting Robust” กับเส้นสาย ที่โฉบเฉี่ยว ทันสมัย ให้ความหนักแน่น ภายในได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “Clean & Wide” ตัวรถกว้างขวาง คำนึงถึงความสะดวกในการใช้งานจริง เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย ให้ความเพลิดเพลินและสะดวกสบายตลอดการเดินทาง 2.ด้านประสิทธิภาพของการขับขี่ – สถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ TNGA ที่ช่วยทำให้จุดศูนย์ถ่วงของตัวรถโดยรวมลดลง เพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวทั้งการขับขี่ทางตรงและในขณะเข้าโค้ง ช่วงล่างด้านหน้า MacPherson Strut และช่วงล่างด้านหลังอิสระแบบปีกนกคู่ Double Wishbone เพิ่มความนุ่มนวลในขณะโดยสารและเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึงการเพิ่มวัสดุดูดซับเสียงและ การสั่นสะเทือนในตำแหน่งต่างๆ สร้างความผ่อนคลายให้กับผู้โดยสารตลอดการเดินทาง 3.ระบบ ไฮบริด เจเนอเรชั่นที่ 4 – ครั้งแรกกับ โคโรลล่า อัลติส ใหม่ รถยนต์รุ่นเดียวในตลาด C-Segment ที่ใส่ระบบ Full hybrid system ช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ยังคงไว้ซึ่งความสนุกในการขับขี่ และตอบสนองต่อการเร่งแซงได้อย่างมั่นใจ นอกเหนือจากเครื่องยนต์ไฮบริด โคโรลล่า อัลติส ใหม่ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรและ 1.6 ลิตร เบนซิน เพื่อตอบสนองต่อทุกความต้องการในทุกกลุ่มลูกค้า โดยมีการปรับจูนเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ให้มีอัตราเร่งตอบสนองที่ดีเยี่ยม และเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ให้มีความเหมาะสมต่อการใช้งานทั่วไป ระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า 1.ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Active Safety) โคโรลล่า อัลติส ใหม่ ได้เพิ่มระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Monitor) และระบบช่วยเตือนในขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert) อีกทั้งยังคงมีระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control) และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill Start Assist Control) เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับทุกรุ่น 2.ระบบความปลอดภัยหลังการชน (Passive Safety) โดยตัวรถมีการเสริม โครงสร้างด้านหน้า เพื่อช่วยถ่ายเทแรงในกรณีที่เกิดการปะทะ และโครงสร้างด้านข้างแบบวงแหวน ช่วยลดการยุบตัวจากการชน รวมทั้งมีถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพิ่มความมั่นใจในการปกป้องผู้โดยสารรอบคัน 3.Toyota Safety Sense ใหม่ล่าสุด ที่มีระบบการทำงานเพิ่มเติมคือ Dynamic Radar Cruise Control แบบ Full-Speed range ซึ่งสามารถปรับลดความเร็วจนถึงจุดหยุดนิ่งตามรถยนต์ คันหน้าและระบบ Lane Tracing Assist ที่ช่วยประคองรถยนต์ให้วิ่งอยู่ในเลนได้เอง แม้ในขณะเข้าโค้ง เพื่อช่วยลดความเมื่อยล้าในขณะขับขี่ และ 4.ระบบการเชื่อมต่อ – สะดวกสบายไปกับ Apple CarPlay และ T-Connect Telematics เพื่อช่วยให้ไม่พลาดในทุกการเชื่อมต่อ ทุกที่ และทุกเวลา