หอการค้าไทย-เอ็กซิมแบงก์ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือส่งเสริมศักยภาพ-เสริมแกร่งเอสเอ็มอีไทย ขยายการค้าการลงทุนสู่เวทีการค้าโลกอย่างมีประสิทธิภาพ นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์เศรษฐกิจไทยต้องเผชิญกับปัจจัยต่างๆอาทิ ภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวน สงครามการค้าสหรัฐฯ–จีน ปัญหา Brexit รวมทั้งค่าเงินบาทที่แข็งค่า ส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้ประกอบการไทย ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันลดลง ทั้งนี้หอการค้าไทยจึงได้ร่วมมือกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการส่งเสริมศักยภาพและสนับสนุนผู้ประกอบการไทย เพื่อร่วมมือกันพัฒนาและอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างประเทศ และการลงทุนในต่างประเทศให้แก่ผู้ประกอบการไทย รวมทั้ง สนับสนุนการดำเนินงานและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการของไทย ในการดำเนินธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ การลงทุนในต่างประเทศ และอำนวยความสะดวกในการให้บริการข้อมูลด้านการค้าและการลงทุน “การส่งออกของไทยในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ขยายตัว 4.3% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 21,205 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คาดว่าส่งออกในช่วงที่เหลือของปีจะมีทิศทางที่ดีขึ้นและหวังว่าความร่วมมือกับ EXIM BANK ในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพและสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน” นอกจากนี้ยังได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆที่เป็นประโยชน์ในการขยายช่องทางการค้าระหว่างประเทศและการลงทุนในต่างประเทศ รวมทั้ง อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการเข้าถึงบริการทางการเงินด้านต่างๆอาทิ บริการสินเชื่อ บริการประกันการส่งออกและบริการการลงทุนต่างประเทศเพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจและช่วยลดความเสี่ยงด้านการค้าระหว่างประเทศ และการลงทุนในต่างประเทศ นายพิศิษฐ์ เสรีวัฒนา กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า EXIM BANK และหอการค้าไทยจะร่วมกันบูรณาการข้อมูลด้านการค้าและการลงทุนการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์หรือบริการ การจัดกิจกรรมทางวิชาการหรือการจับคู่ธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพและองค์ความรู้ให้กับผู้ประกอบการเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศและการลงทุนในต่างประเทศ ตลอดจนการสนับสนุนทางการเงิน สำหรับ EXIM BANK ได้เสนอสิทธิประโยชน์พิเศษให้แก่สมาชิกของหอการค้าถึง 2 ต่อ ต่อแรกจะได้รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ยปีแรก 0.5% ต่อปีจากอัตราดอกเบี้ยปกติที่ลูกค้าได้รับสำหรับสินเชื่อเพื่อการส่งออกและนำเข้า และสินเชื่อเพื่อการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และต่อที่สองมอบส่วนลดพิเศษ 50% ของค่าเบี้ยประกัน SMEs Easy ที่คุ้มครองกว่า 85% ของความเสียหายที่เกิดจากความเสี่ยง ผู้ซื้อล้มละลาย ผู้ซื้อปฏิเสธการชำระค่าสินค้า การควบคุมการโอนเงินจากประเทศผู้ซื้อและความเสี่ยงทางการเมืองที่กระทบต่อธุรกิจโดยตรงเพื่อเป็นการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน รวมทั้งป้องกันความเสี่ยงทางด้านการค้าระหว่างประเทศที่จะนำมาซึ่งการขยายการค้าการลงทุนของไทยให้มากยิ่งขึ้น โดยการลงนามในบันทึกข้อตกลงในวันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการไทยทุกระดับ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสิทธิประโยชน์พิเศษนี้ จะช่วยผ่อนคลายภาระต้นทุน และเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน “EXIM BANK พร้อมที่จะเป็นกลไกหนึ่งในการส่งเสริมศักยภาพ สนับสนุน และผลักดันผู้ประกอบการไทยในทุกระดับให้ประสบผลสำเร็จสามารถก้าวสู่เวทีการค้าโลกได้อย่างมั่นใจด้วยการทำหน้าที่เติมเต็มช่องว่างและเป็นตัวกลางสร้างเครือข่ายทางธุรกิจใหม่ๆให้แก่ผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศตลาดใหม่(New Frontier)เช่น แอฟริกา และอินเดีย”