แม้ในที่สุด เซ็นทรัลวิลเลจ ลักชูรี่เอาท์เล็ตแห่งแรกของประเทศไทย จะสามารถเปิดให้บริการตามวันเวลาที่กำหนดไว้ หลังศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ บมจ.ท่าอากาศยานไทย เปิดทางเข้าออกให้กับโครงการเซ็นทรัลวิลเลจ แต่งานนี้ คงยังไม่จบง่ายๆ มีสิทธิกลายเป็นศึกยืดเยื้อ เพราะถึงโดยภาพที่ปรากฏจะเป็นความขัดแย้งระหว่างกลุ่มบริษัทเซ็นทรัล กับ บมจ.การท่าอากาศยานไทย ทว่า หลายฝ่ายกลับมองเลยไปถึง คิง เพาเวอร์ เจ้าของธุรกิจดิวตี้ฟรีในสนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งนี้ เพราะการผุดขึ้นของเซ็นทรัลวิลเลจนั้น ส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจดิวตี้ฟรีของคิง เพาเวอร์ และคงไม่เป็นการเกินเลยไปนัก หากจะมีคนมองว่ากลุ่มเซ็นทรัลฯ ไม่ได้เป็นเพียงแค่คู่แข่งทางการค้าขอบ คิง เพาเวอร์ เท่านั้น หากแต่ยังอาจมีสถานภาพเป็นถึง “คู่แค้น “อีกด้วย เนื่องด้วยก่อนหน้านี้ กลุ่มเซ็นทรัลฯ แสดงอาการแข็งขันเป็นอย่างมาก ในการทำสงครามแย่งชิงสัมปทานดิวตี้ฟรีในสนามบินสุวรรณภูมิ และเข้าซื้อเอกสารเพื่อร่วมประมูลแข่งกับผู้ประกอบการอีก 4 ราย คือ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท โรงแรมรอยัลออคิด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นเหตุให้ คิง เพาเวอร์ ต้องทุ่มสุดตัว เพื่อรักษาสัมปทานดิวตี้ฟรีของตัวเองเอาไว้ให้ได้ โดยยื่นซองเสนอผลตอบแทนขั้นต่ำให้กับ บมจ.ท่าอากาศยานไทยมากถึงปีละ 15,419,000,000 บาท แลกกับการได้รับสัมปทานดิวตี้ฟรีเป็นเวลา 10 ปี 6 เดือน และเสนอผลตอบแทนขั้นต่ำปีละ 5,798,000,000 บาท เพื่อแลกกับสิทธิในการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นเวลา 10 ปี 6 เดือน รวมแล้ว เบ็ดเสร็จ คิง เพาเวอร์ ต้องจ่ายผลตอบแทนขั้นต่ำให้กับบมจ. ท่าอากาศยานไทย เฉพาะในส่วนของสนามบินสุวรรณภูมิ ปีละกว่า 2.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าเดิมจากที่เคยจ่ายให้กับ บมจ.ท่าอากาศยานไทย ปีละไม่กี่พันล้าน ส่วนทางกลุ่มเซ็นทรัลฯ ซึ่งเคยโชว์ท่าทีพร้อมสู้เต็มที่ กลับไม่ได้ยื่นซองประมูลสัมปทานดิวตี้ฟรีแต่อย่างไร นอกเหนือจากสร้างความหวั่นไหวให้กับคิง เพาเวอร์ ถึงขนาดต้องยอมเพิ่มตัวเลขผลตอบแทนให้ บมจ. ท่าอากาศยานมากกว่าเดิมถึงราว 3 เท่าตัว อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ากลุ่มเซ็นทรัลฯจะเคยอยากได้สัมปทานดิวตี้ฟรีจริงๆ หรือเป็นเพียงแค่การเดินหมากทางธุรกิจเพื่อหลอกล่อคู่แข่ง เพราะมี “เซ็นทรัลวิลเลจ” เป็นฐานธุรกิจในการแชร์ส่วนแบ่งตลาดนักท่องเที่ยวที่มาใช้สนามบินสุวรรณภูมิอยู่แล้วก็ตาม แต่ที่แน่ๆ วันนี้ คิง เพาเวอร์ต้องอยู่ในสภาพหลังแอ่นแบกน้ำหนักในการทำศึกกับกลุ่มเซ็นทรัลฯ เพราะมีต้นทุนสูงกว่าถึงปีละ2.1 หมื่นล้านบาท