จากกรณีนายศรีอนนท์ แสงอรุณ อายุ 34 ปี ชาว จ.ยโสธร เข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน หลังสลากกินแบ่งหมายเลข 147055 จำนวน 3 ใบ ซึ่งถูกรางวัลที่ 1 รวมมูลค่า 18 ล้านบาท ที่วางไว้บนหลังตู้เย็นและมีกล่องกระดาษทิชชู่ทับไว้ ได้หายไปจากบ้านที่ในซอยสุขุมวิท 48 ซึ่งเจ้าตัวเชื่อว่าพี่ชาย อาจเกี่ยวข้องกับการหายไปของสลากฯ ดังกล่าวเนื่องจากพี่ชายได้หายออกไปจากบ้านและติดต่อไม่ได้ ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น ความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.15 น.วันที่ 2 ก.ย.62 ที่ สน.คลองตัน นายศรีอนนท์ แสงอรุณ อายุ 34 ปี ชาว จ.ยโสธร ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมพร้อมหารือเรื่องการพาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจสอบหาแผงขายหวยภายในปั๊มน้ำมัน ที่ จ.เพชรบุรี นายศรีอนนท์ กล่าวว่า ตอนนี้ตนมีประเด็นใหม่มาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากเมื่อวานนี้( 1 ก.ย.) มีเพื่อนของตนคนหนึ่งได้โทรศัพท์ผ่านทางเฟซบุ๊กแมสเซ็นเจอร์มาบอกมาว่า พบเจอพี่ชายของตนขับรถตู้ยี่ห้ออีซูซุอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นรถของเพื่อนพี่ชาย หรือเป็นรถที่พี่ชายซื้อมาใหม่ ซึ่งตนยังไม่มีพยานหลักฐานภาพถ่ายหรือเอกสารใดๆ จึงจะขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย ส่วนกรณีพี่ชายยืนยันว่าไม่ได้ขโมยล็อตเตอร์รี่และที่ต้องออกจากบ้านไป เพราะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับตนมาตลอดนั้น ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะที่ผ่านมาขณะอยู่ด้วยกันก็ไม่เคยทะเลาะกันเลย แต่เพิ่งมามีเรื่องทะเลาะกันหลังจากพี่ขายหนีออกจากบ้าน และผิดนัดที่จะไปขอข้อมูลที่กองสลากกินแบ่งรัฐบาล ทำให้ตนเกิดความโมโห เมื่อเจอพี่ชายอีกครั้งเมื่อวันที่ 14 ก.ค.62 ที่ผ่านมา จึงลงมือทำร้ายและขู่ฆ่านั้นทำไปด้วยความโมโหเท่านั้น ส่วนประเด็นเรื่องกล่องกระดาษทิชชู่ ที่พี่ชายอ้างว่าเป็นของส่วนรวมในบ้าน แล้วใครๆ ก็จับได้นั้น ตนมองว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นกล่องกระดาษเปล่าที่ตั้งทิ้งไว้นาน 2-3 ปี แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปหยิบจับ แต่กล่องก็ยังถูกวางทิ้งไว้จนล็อตเตอร์รี่หายไป จนกระกระทั่งปลายเดือน ส.ค.62 ที่ผ่านมา ตนจึงนำกล่องกระดาษใส่ถุงพลาสติก เพื่อหาลายนิ้วมือหรือดีเอ็นเอ แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะพบเบาะแสอะไรหรือไม่ ด้านนายศรีอนนท์ กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นที่มีข่าวว่า น้าสาวออกมาบอกว่าตนมีเทพมากระซิบข้างหูว่า ให้ซื้อเลขล็อตเตอร์รี่นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะตนไม่เคยบอกว่ามีเทพมากระซิบ ว่าให้ตนซื้อเลขอะไรหรือพี่ชายตนขโมยไป ดูเหมือนจะเป็นการฟอกตัวเองให้ขาว แล้วค่อยโยนความผิดมาให้ตน