วันแรกการเปิดโครงการปรับปรุงและพัฒนาระบบตรวจจับรถฝ่าสัญญาณไฟจราจรแบบใหม่ หรือหรือ Red light camera system ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบตรวจจับรถที่ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรแบบอัตโนมัติ ที่จะเริ่มจับจริงในวันนี้ (1 ก.ย.) ล่าสุดวันที่ 1 ก.ย.62 ที่ผ่านมา พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผบช.น.กล่าวเปิดเผยว่า วันนี้ถือเป็นวันแรกสำหรับใช้ระบบตรวจจับรถฝ่าสัญญาณไฟจราจรแบบใหม่ หรือ Red light camera system ที่เป็นการพัฒนาระบบตรวจจับรถที่ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรแบบอัตโนมัติ บริเวณ 30 จุดทางแยก ที่ก่อนหน้านี้ทางเราได้ประชาสัมพันธ์มาโดยตลอด เนื่องจากต้องการให้ประชาชนที่ใช้รถปฎิบัติตามกฎจราจรเพื่อการลดอุบัติเหตุ โดยในแต่ละจุดได้มีการติดตั้งป้ายเตือน ก่อนถึงแยกสัญญาณไฟแดงประมาณ 50-100 เมตร ว่า ที่แยกด้านหน้ามีการติดตั้งกล้อง สำหรับคนที่ฝ่าฝืนนั้นถือว่าเป็นการจงใจ ซึ่งจริงๆ แล้วทางตำรวจไม่ได้มุ่งหวังที่จะออกใบสั่งเพียงอย่างเดียว เพราะเราไม่อยากให้ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรมากกว่า ซึ่งในวันนี้ทั้ง 30 จุด พบมีผู้ฝ่าฝืนสัญญาณไฟ ตั้งแต่เวลา 00.01 น.ของวันที่ 1 ก.ย.62 จนถึงเวลา 15.00 น. เราพบมีผู้ฝ่าฝืนรวมรถทุกประเภททั้งหมด 538 รายด้วยกัน สำหรับแยกที่พบว่ามีการกระทำความผิดมากที่สุดเป็นแยกรัชดา-พระราม 4 จำนวน 269 ราย คิดเป็น 49.9 เปอร์เซ็นต์ ,รองลงมาแยกอโศก-เพชรบุรี จำนวน 78 ราย คิดเป็น 14.5 เปอร์เซ็นต์ เมื่อจำนวนตัวเลขออกมาแบบนี้ ทางตำรวจจะต้องนำไปวิเคราะห์ในเชิงลึกว่า เพราะเหตุใดจึงมีการฝ่าฝืนและจะต้องมีการนำไปแก้ไข ทั้งในเรื่องโครงสร้าง กายภาพ หรือเป็นการตั้งสัญญาณไฟ ไม่เหมาะสม สำหรับตัวเลขผู้ฝ่าฝืนในวันนี้ยังถือว่า จำนวนลดลงจากเดิมที่เราได้ทดลองตรวจจับเมื่อวันที่ 31 ส.ค.62 มีประมาณ 948 ราย ซึ่งถือว่าจำนวนลดลง410 ราย คิดเป็น 43.24 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคาดว่าการประชาสัมพันธ์ และการติดตั้งป้ายเตือนนั้น จะทำให้มีผู้กระทำความผิดน้อยลง พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาได้มีการปรับปรุงพัฒนากล้อง ทั้งในเรื่องความคมชัดในช่วงเวลากลางคืน โดยมีการนำระบบอินฟราเรดเข้ามาใช้ ทำให้เวลากลางคืนสามารถจับภาพได้ชัดเจนมากขึ้น ด้วยความคมชัด 12 ล้านเมกกะพิกเซล นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงให้สามารถจับภาพรถยนต์ได้ทุกประเภท แต่อย่างไรก็ตามยังจะยังไม่มีการออกใบสั่ง คงต้องใช้เวลาประมาณ 7 วัน เนื่องจากจากระบบส่วนหน้า จะมีการส่งข้อมูลไปยังระบบส่วนหลัง เพื่อทำการตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถกับทางกรมขนส่งทางบก ว่าหมายเลขทะเบียนตรงหรือไม่เพื่อยืนยันความถูกต้อง นอกจากนี้ยังมีการดูวิเคราะห์ ทั้งก่อนและรวมถึงหลังขับผ่านแยกดังกล่าว เพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันในการฝ่าฝืนสัญญาณไฟ ซึ่งหลังจากผ่านการตรวจสอบแล้ว ก็จะต้องมีการนำเรื่องเสนอให้ระดับผู้บังคับบัญชา ทำการตรวจสอบอีกขั้นตอนหนึ่ง ก่อนที่จะมีการออกใบสั่ง แล้วนำส่งไปทางไปรษณีย์ให้ผู้กระทำความผิด เพื่อให้ไปเสียค่าปรับตามขั้นตอน แต่ถ้าหากท่านไม่ไปชำระค่าปรับตามกฎหมายใหม่ ที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 20 ก.ย.62 นี้ ก็จะทำให้มีความผิดถูกตัดคะแนนเพิ่มขึ้นอีก และก็จะไม่สามารถไปต่อทะเบียนรถยนต์ได้