เมื่อเช้าวันที่ 1 ก.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้ามืดชุดปฎิบัติการทางน้ำเขต บก.เหนือ ของมูลนิธิร่วมกตัญญู จากกรุงเทพ ได้นำกำลังเร่งเข้าพื้นที่หมู่ 3 บ้านเป้า ต.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น หลังได้รับการประสานขอสนับสนุนทีมเรือเร็ว เข้าพื้นที่ช่วยเหลือนำเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยสว่างรัตนตรัยสระบุรี ที่ได้รับบาดเจ็บแขนหักจากการนำเรือเข้าไปกับเพื่ออาสาอีก9คน ที่ช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดอยู่บนต้นไม้ เมื่อเดินทางเข้าพื้นที่พบว่า จุดดังกล่าวต้องใช้เรือในการเข้าพื้นที่ และต้องฝ่ากระแสน้ำที่เชี่ยวแรง ทางทีมเรือกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู เลยตัดสินใจนำเรือวิ่งฝากระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวและความมืดด้วยความยากลำบาก แต่ก็สามารถทำภารกิจสำเร็จ โดยในรอบแรกสามารถนำผู้บาดเจ็บที่แขนหักและชาวบ้านรวมไปถึงกู้ภัย ที่ติดอยู่รวมเป็น4คน ส่งต่อให้รถพยาบาล เพื่อไม่ให้เรือมีน้ำหนักมากเกิน จากนั้นจึงได้กลับไปรับคนที่เหลือเพิ่มอีก 5 คน นำออกมาได้โดยปลอดภัย จากการพูดคุยนายสถิตย์ วงศ์ทอง ทีมปฎิบัติการทางน้ำ ที่ทำหน้าที่ขับเรือฝ่ากระแสว่า ไม่รู้สึกหนักใจกับภารกิจในครั้งนี้ เพราะมั่นใจในสมรรถนะของเรือ ที่ใช้ในภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยมาตลอด และตนเองไม่ได้ประมาทมีการวางแผนอย่างดีและที่สำคัญทีมที่เข้าไปไม่มาก จึงไม่ทำให้เกิดปัญหาอุปสรรคอะไร แต่อุปสรรคคือต้องหาทางเข้าพื้นที่ลำบาก เพราะมีต้นไม้และสิ่งกีดขวางแถมกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ด้านนายอรุณ อ่ำทองอยู่ อาสาสมัครกู้ภัยสว่างรัตนตรัยที่ได้รับบาดเจ็บจนแขนหัก เล่าให้ฟังว่า ตนเองทำหน้าที่ขับเรือเข้าไปกับเพื่อนอาสารวมทั้งหมด9คน เพื่อจะเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดอยู่บนต้นไม้ แต่ปัญหาคือในพื้นที่กระแสน้ำเริ่มไหลเชี่ยวขึ้น เพราะมวลน้ำที่เริ่มไหลมาจากทางเมืองบ้านไผ่ ซึ้งในขณะที่กำลังจะกลับลำเรือเพื่อช่วยชาวบ้าน ส่วนท้ายเรือได้เข้าไปอยู่ใต้หลังคาบ้านที่ต่อเติมออกมา จากนั้นเสาของหลังคาได้ล้มลงจนทำให้หลังคาพังลงมาทับตนกับเรือจนจมน้ำ ส่วนเพื่อนๆ ก็ตกน้ำ ตนเองก็จมอยู่ในน้ำไม่สามารถขึ้นมาได้เพราะแขนถูกทับระหว่างเรือกับหลังคา จนแทบจะขาดใจ แต่สุดท้ายเพื่อนอาสาที่ไปด้วยพยายามช่วยกันยกหลังคา จากนั้นจึงได้กระชากแขนออกจนแขนหักและขึ้นมาเหนือน้ำได้ ซึ่งถ้าไม่เช่นนั้นตนคงจะต้องจมน้ำจนขาดอากาศหายใจในที่สุด CR.ธนาธิป ไชยยศ ฝ่ายประชาสัมพันธ์มูลนิธิร่วมกตัญญู