ชาวบ้านที่เสียผลประโยชน์จากการขายของนักท่องเที่ยว ขี่มาดูพระพุทธรูป ต่อต้านไม่ให้นำพระพุทธรูปขึ้นจากน้ำ จะปล่อยให้น้ำท่วมต่อไป ประชาชนวิงวอนให้ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องช่วยเคลื่อนย้าย พระพุทธรูปในเขื่อนป่าสักฯ ที่ถูกน้ำท่วมมาเป็นเวลานานขึ้นมาไว้บนที่ที่เหมะสมหลังน้ำลดเห็นแล้วรันทดที่ถูกแช่ไว้นาน เห็นแล้ว ชาวพุทธน้ำตาไหล
จากกรณีที่มีประชาชนหรือนักท่องเที่ยว ได้เดินทางไป ไปชมซากปรักหักพัง ของวัดหนองบัว(ใหญ่) ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี นักท่องเที่ยวไปชมซากวัดครั้งในอดีตที่เคยเป็นวัดที่พุทธศาสนิกรชนพากันกราบไหว้ ภายหลังได้มีโครงการเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ สร้างขึ้นตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2532 เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ และบรรเทาอุทกภัยในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำป่าสัก พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร
ประชาชนที่แห่กันไปชมซากวัตถุวัดแห่งนี้แล้วภาพที่ประชาชนรนทดมากที่สุดก็เห็นจะเป็นภาพพระพุทธรูป ที่เหลืออยู่องค์หนึ่ง ที่ศีรษะได้ถูกตัดออกจนเหลือแต่องค์พระ และยังคงตั้งตระหง่านอยู่กลางเขื่อนแบบนี้ เวลาน้ำท่วมท่านก็จะต้องจมอยู่ใต้บาดาล พอน้ำแห้งเราก็จะได้เห็นท่าน เห็นแล้วนึกสงสารและรดทดเสียเหลือเกินประชาได้วิงวอนเจ้าของพื้นที่ไม่ว่า กำนัน ,นายกตำบลหนองบัว,หรือ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เจ้าของพื้นที่รองนำท่านขึ้นมาบูรณะและเก็บไว้ที่เหมะสมจะดีกว่า อย่าให้ชาวโลกรับรู้เลยว่าประเทศไทยเมืองพุทธ ได้ละเลย หรือขาดการเหลียวแล และในอีกไปกี่วันน้ำก็จะท่วมองค์ท่านอีกแล้ว
วันนี้ ( 30 ส.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางคณะสงฆ์จังหวัดลพบุรี ได้มีความ คิดเห็น ให้ทางเขื่อนป่าสัก พิจารณา นำองค์พระขึ้นมา จากแหล่งเก็บกักน้ำ เพื่อนำมาซ่อมแซมไม่ให้ชำรุด และ วัยที่เหมาะสม ไม่ให้ถูกน้ำท่วมหรือจมน้ำต่อไป
ขณะที่ชาวบ้านตำบลหนองบัว ซึ่งเคยอาศัยอยู่ในพื้นที่ ตรงที่น้ำท่วมพระ ได้ไปทำกิจการ ค้าขายของที่ระลึก บริเวณที่ นักท่องเที่ยวไปชมพระพุทธรูปจมน้ำ ได้ออกมาต่อต้าน ทางเจ้าหน้าที่ซึ่งกำลัง จะดำเนินการนำพระพุทธรูปขึ้นจาก การจะถูกน้ำท่วมอีกรอบหนึ่ง ภายในวันนี้ ซึ่ง น้ำในเขื่อนป่าสัก กำลังจะเพิ่มปริมาณ หากไม่นำขึ้นภายในวันนี้ ก็จะไม่สามารถ นำพระพุทธรูปขึ้นมาได้ คงจมอยู่ใต้บาดาลเช่นเดิม นับสิบปีต่อไป ชาวบ้านคงบังคับ ให้นำรถแม็คโคร กลับขึ้นมาเสีย ไม่ต้องนำ พระพุทธรูปขึ้นมา คงปล่อยให้จมน้ำต่อไป
จากกรณีที่มีประชาชนหรือนักท่องเที่ยว ได้เดินทางไป ไปชมซากปรักหักพัง ของวัดหนองบัว(ใหญ่) ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี นักท่องเที่ยวไปชมซากวัดครั้งในอดีตที่เคยเป็นวัดที่พุทธศาสนิกรชนพากันกราบไหว้ ภายหลังได้มีโครงการเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ สร้างขึ้นตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2532 เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ และบรรเทาอุทกภัยในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำป่าสัก พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร
ประชาชนที่แห่กันไปชมซากวัตถุวัดแห่งนี้แล้วภาพที่ประชาชนรนทดมากที่สุดก็เห็นจะเป็นภาพพระพุทธรูป ที่เหลืออยู่องค์หนึ่ง ที่ศีรษะได้ถูกตัดออกจนเหลือแต่องค์พระ และยังคงตั้งตระหง่านอยู่กลางเขื่อนแบบนี้ เวลาน้ำท่วมท่านก็จะต้องจมอยู่ใต้บาดาล พอน้ำแห้งเราก็จะได้เห็นท่าน เห็นแล้วนึกสงสารและรดทดเสียเหลือเกินประชาได้วิงวอนเจ้าของพื้นที่ไม่ว่า กำนัน ,นายกตำบลหนองบัว,หรือ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เจ้าของพื้นที่รองนำท่านขึ้นมาบูรณะและเก็บไว้ที่เหมะสมจะดีกว่า อย่าให้ชาวโลกรับรู้เลยว่าประเทศไทยเมืองพุทธ ได้ละเลย หรือขาดการเหลียวแล และในอีกไปกี่วันน้ำก็จะท่วมองค์ท่านอีกแล้ว
วันนี้ ( 30 ส.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางคณะสงฆ์จังหวัดลพบุรี ได้มีความ คิดเห็น ให้ทางเขื่อนป่าสัก พิจารณา นำองค์พระขึ้นมา จากแหล่งเก็บกักน้ำ เพื่อนำมาซ่อมแซมไม่ให้ชำรุด และ วัยที่เหมาะสม ไม่ให้ถูกน้ำท่วมหรือจมน้ำต่อไป
ขณะที่ชาวบ้านตำบลหนองบัว ซึ่งเคยอาศัยอยู่ในพื้นที่ ตรงที่น้ำท่วมพระ ได้ไปทำกิจการ ค้าขายของที่ระลึก บริเวณที่ นักท่องเที่ยวไปชมพระพุทธรูปจมน้ำ ได้ออกมาต่อต้าน ทางเจ้าหน้าที่ซึ่งกำลัง จะดำเนินการนำพระพุทธรูปขึ้นจาก การจะถูกน้ำท่วมอีกรอบหนึ่ง ภายในวันนี้ ซึ่ง น้ำในเขื่อนป่าสัก กำลังจะเพิ่มปริมาณ หากไม่นำขึ้นภายในวันนี้ ก็จะไม่สามารถ นำพระพุทธรูปขึ้นมาได้ คงจมอยู่ใต้บาดาลเช่นเดิม นับสิบปีต่อไป ชาวบ้านคงบังคับ ให้นำรถแม็คโคร กลับขึ้นมาเสีย ไม่ต้องนำ พระพุทธรูปขึ้นมา คงปล่อยให้จมน้ำต่อไป