รัฐบาลฮ่องกงเพิ่งประกศอีดฉีดงบประมาณ 1.91 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือ2.44 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการประท้วงที่ยืดเยื้อ โดยมีมาตรการปล่อยสินเชื่อสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก เงินอุดหนุนสำหรับนักเรียน และการยกเว้นค่าเช่าบ้านและค่าไฟฟ้า เพื่อช่วยเหลือประชาชนในการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
ทั้งนี้รัฐบาลจะปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ สู่ระดับ 0-1% จากเดิมที่ระดับ 2-3%
อย่างไรก็ตาม การชุมนุมประท้วงที่ยืดเยื้อนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบแต่เพียงฮ่องกงเท่านั้น แต่สำหรับประเทศไทยเองก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ดังรายงานจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ที่ระบุว่าเหตุการณ์ประท้วงที่ฮ่องกง ไม่ส่งผลดีต่อการส่งออกของไทยไปฮ่องกงในช่วงที่เหลือของปีอย่างแน่นอน โดยคาดว่าอาจฉุดให้การส่งออกไปฮ่องกงสูญเสีย 500-900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ทั้งปี 2562 การส่งออกของไทยไปฮ่องกงมีความเสี่ยงหดตัวสูงขึ้นมาที่ราว 9-12% จากที่ในช่วง 6 เดือนแรกปี 2562 หดตัวอยู่แล้วที่ 9.4% (YoY)
โดยตลาดฮ่องกงมีความพิเศษสำหรับไทยตรงที่สินค้าที่ส่งออกจากไทยไปยังฮ่องกงราว 60% นั้นใช้ฮ่องกงเป็นทางผ่านไปยังตลาดจีนซึ่งสินค้ากลุ่มนี้มีทิศทางอ่อนไหว และสินค้าที่เหลือเป็นการใช้บริโภคภายในเกาะฮ่องกงซึ่งผลจากความอ่อนไหวของเศรษฐกิจฮ่องกงนั้นกระทบกับสินค้ากลุ่มหลังมากกว่า
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่ากรณีที่เหตุการณ์ไม่ขยายวงกว้างไปกว่านี้และยุติลงได้โดยเร็ว ผลกระทบต่อการส่งออกไทยไปฮ่องกงจะจำกัดที่ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสืบเนื่องมาจากสินค้าอุปโภคบริโภคของไทยไปฮ่องกงอาจอ่อนไหวมากยิ่งขึ้นในช่วงที่เหลือของปีตามความหวั่นไหวทางเศรษฐกิจของฮ่องกงเป็นหลัก กลุ่มสินค้าที่มีความเสี่ยงคำสั่งซื้ออ่อนแรงลงจากปัจจุบันอีกราวร้อยละ 20-30 ในช่วงที่เหลือของปี โดยเฉพาะในกลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับ ผักและผลไม้ ข้าว ไก่แปรรูป ไข่ไก่สด และอาหารทะเลกระป๋องและผลไม้กระป๋อง เป็นต้น
แต่หากในกรณีที่เหตุการณ์ยกระดับความรุนแรง มีผลทำให้ภาคธุรกิจในประเทศหยุดชะงักรวมทั้งส่งผลให้การขนส่งทางน้ำติดขัด ผลกระทบต่อการส่งออกไทยไปฮ่องกงจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นทั้งผลจากสินค้าอุปโภคบริโภคที่ทรุดตัวยิ่งกว่าเดิม บวกกับผลที่มาจากการส่งออกในกลุ่มสินค้าขั้นกลางของไทยที่ส่วนใหญ่ใช้ฮ่องกงเป็นทางผ่านไปยังจีน
โดยผลกระทบที่มีต่อสินค้าส่วนนี้ส่วนหนึ่งมาจากการชะลอตัวตามความไม่แน่นอนของคำสั่งซื้อที่มาจากจีนที่อยู่ท่ามกลางสงครามการค้าเป็นหลัก บวกกับการติดขัดในการขนส่งที่จะเกิดเพียงในระยะสั้นเพียง 1-2 เดือนเท่านั้น หลังจากนั้นผู้ประกอบการสามารถใช้เส้นทางการเดินเรือทางอื่นขนส่งไปยังจีนได้โดยตรงทดแทนการส่งสินค้าผ่านฮ่องกง อาทิ ผ่านทางท่าเรือเซินเจิ้นและท่าเรือกวางโจวในมณฑลกวางตุ้งของจีน ซึ่งสินค้าไทยที่ผ่านช่องทางนี้ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า อุปกรณ์โทรศัพท์ ทรานซิสเตอร์และไดโอท และวงจรพิมพ์ เป็นต้น
นอกจากนี้ ในด้านการนำเข้าของไทยที่สินค้าจีนก็ใช้ฮ่องกงเป็นทางผ่านมาไทยก็ไม่กระทบมากนัก เพราะส่วนใหญ่ไทยนำเข้าอัญมณีและเครื่องประดับ แต่ผลกระทบกลับตกอยู่ประเทศที่มีห่วงโซ่การผลิตที่เชื่อมโยงกับจีนและใช้ฮ่องกงเป็นทางผ่านมากกว่าโดยสินค้าที่มีความเสี่ยงอยู่ในกลุ่มที่ต้องพึ่งพาชิ้นส่วน ICs ชิ้นส่วนเครื่องจักรกล HDDs ทรานซิสเตอร์/ไดโอท ชิ้นส่วนโทรทัศน์ แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องพิมพ์ เป็นต้น
กระนั้นก็ตาม เราหวังว่าเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงในฮ่องกงจะสามารถยุติได้โดยเร็วที่สุด โดยปราศจากการสูญเสียชีวิตและเลือดเนื้อ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด