สิ่งที่หลายคนคาดการณ์กันเอาไว้ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ยังไม่มีการตั้ง ครม.ชุดใหม่ "ประยุทธ์2/1" คือการโฟกัสว่าที่สุดแล้ว "พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์" อย่าง "บิ๊กป้อม"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงใดบ้าง หรือจะFade ตัวเองออกจากวงจรการเมือง เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็น "ตำบลกระสุนตก" ถูกล็อคเป้าถล่ม
แต่ทว่า ยิ่งนานวันกลับมีความชัดเจนว่า นอกจาก "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร จะไม่ถอยออกจากที่มั่นทางการเมืองแล้ว ยังรุกคืบเข้า "คุมเกม" ด้วยตัวเองอีกต่างหาก !!
ขณะการเมืองภายในพรรคพลังประชารัฐ เริ่มเข้าสู่โหมดแห่งความวุ่นวาย โดยเฉพาะเมื่อ "5พรรคเล็ก"เปิดเกมต่อรองตำแหน่ง จนสามารถยึดพื้นที่สื่อ สร้างความวุ่นวายกับรัฐบาล ล่าสุดพรรคพลังประชารัฐ พลิกสถานการณ์กลับด้วยการส่ง "บิ๊กป้อม" พี่ใหญ่ ลงมาเล่นเอง
โดยพรรคจะมีการปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เพื่อให้มีความยึดโยงกับส.ส. รวมทั้งยังเสนอให้ พล.อ.ประวิตร นั่งเป็น "ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรค" เพื่อเป็นศูนย์กลางควบคุมส.ส.รวมทั้งประสานงาน รับฟังปัญหาส.ส.จากทุกภาค
นอกจากนี้ยังใช้วิธีการ "ย้อนศร" พรรคเล็ก อย่างไทยศรีวิไลย์ ด้วยการตัดขาด แล้วจัดสรรตำแหน่งข้าราชการทางการเมือง ให้กับพรรคเล็ก พรรคอื่นแทน
นั่นหมายความว่า พลังประชารัฐยังคงเลือกเล่นบทแข็ง เพื่อควบคุมกำกับความเป็นไปภายในพรรค ไปจนถึงการกำหนดเกมการเล่นเป็นพรรคหลัก ในรัฐบาล แต่ขณะเดียวกันอาจไม่ต้องถึงขั้นแตกหัก ให้เกิดปัญหาเสียรังวัดตามมา
การลงมาคุมเกมด้วยตัวเองของพล.อ.ประวิตร รอบนี้เพื่อเตรียมเคลียร์รันเวย์ให้กับ "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สามารถ "อยู่ยาว" โดยไร้คลื่นลมมากวนใจให้มากที่สุด ดังนั้นจึงเท่ากับว่างานในฝ่ายบริหารนั้น รัฐบาลจะใช้ทุกกลไกที่มีอยู่ในมือเพื่อขยับเดินไปข้างหน้า ทั้งข้าราชการและพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค
อย่างไรก็ดี ในภาพรวมการบริหารจัดการ "10พรรคเล็ก" นั้นไม่จำเป็นที่ทั้งบิ๊กป้อมและบิ๊กตู่ จะเลือกวิธีการ "หักด้ามพร้าด้วยเข่า" ไปเสียทุกทาง เพราะอย่าลืมว่าแม้พลังประชารัฐ จะมี "ก๊อกสอง" เตรียมเอาไว้เพื่อแก้ปัญหา "เสียงปริ่มน้ำ" สำหรับรัฐบาล ด้วยการประสานในทางลับกับ พรรคฝ่ายค้านมาโดยตลอด และคาดว่าจะมีการเปิดตัวแกนนำจากฝั่งตรงข้ามตามมาอีก
แต่กว่าจะถึงวันนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า รัฐบาลยังจำเป็นต้องอาศัยเสียงจากพรรคเล็ก แม้จะไม่ครบทั้ง "10 พรรคเล็ก" ก็ตาม โดยอาจจะเลือกตัดไมตรีกับพรรคไทยศรีวิไลย์ เพื่อ "เชือดไก่ให้ลิงดู" กันเป็นด่านแรก เพราะการส่ง "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" มือประสานสิบทิศไปเจรจาเพื่อ "สยบ" ความวุ่นวาย ก็เป็นสายตรงจากบิ๊กป้อม ใช่อื่นไกล
ปฏิบัติการคุมบังเหียนทางการเมืองของ พี่ใหญ่ อย่าง บิ๊กป้อม ในฐานะผู้จัดการรัฐบาล จะเริ่มเข้มข้นมากขึ้นตามลำดับ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นทั้งในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง ตลอดจนจากประชาชนให้กลับมาโดยไว หลังจากที่เสียรังวัด เสียพื้นที่ให้กับพรรคฝ่ายค้าน ที่พากันจับมือรุมถล่ม "น้องรัก" อย่างพล.อ.ประยุทธ์ ด้วยปมถวายสัตย์ฯ จนน่วมอย่างที่เห็น !