ผ่านการแถลงนโยบายรัฐบาลมาแล้ว คณะรัฐมนตรีที่นำโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ต้องตั้งหน้าตั้งตาบริหารประเทศให้มีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ ดำเนินตามนโยบายที่ประกาศไว้ ต้องยอมรับว่า หลังจากนี้ในศึกพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณประจำปี 2563 และการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งฝ่ายค้านประกาศโปรแกรมเอาไว้ล่วงหน้านั้น จะเป็นด่านหินสำหรับรัฐบาล โดยเฉพาะโฟกัสการเมืองไทย ผลพวงจากศึกแถลงนโยบายรัฐบาลที่ผ่านมานั้น แม้จะรู้ฝ่ายค้านจับจ้องอยู่ที่พล.อ.ประยุทธ์ จากเดิมที่มีการวางตัวขุนพลฝีปากกล้าที่จะทำหน้าที่ตอบโต้กับฝ่ายค้านในการแถลงนโยบายรัฐบาล เพื่อปกป้องพล.อ.ประยุทธ์ แต่เมื่อถึงเวลาจริงพล.อ.ประยุทธ์ สวมวิญญาณแม่ทัพ ลุยปะทะกับฝ่ายค้าน พยายามชี้แจงในประเด็นต่างๆ ด้วยตนเอง ทำให้มีบางขณะที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ “อารมณ์ดีทุกวันนั่นแหละ อันไหนไม่ดีก็แกล้งโมโห” แต่กระนั้น นี่ถือเป็นบททดสอบที่สำคัญของ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะนับจากนี้พล.อ.ประยุทธ์ จะสามารถจับอารมณ์ของตนเองได้ แม้จะเสียรังวัดไปบ้าง เช่นปะทะคารมกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่อภิปรายถึงคุณสมบัติ ความสามารถของนายกรัฐมนตรี รวมทั้งระบุว่ารัฐบาลชุดนี้มาจากการโกงเลือกตั้ง ในช่วงที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม จนทำให้มีการประท้วงกันเป็นระยะๆ กระทั่งพล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ระบุว่า เพื่อความสงบของสภาฯตนจะหยุดเพียงเท่านี้ “แต่ถ้าเป็นผม ผมคงไม่หน้าด้านอยู่ต่อ” เมื่อมาถึงตรงนี้ปรากฎว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯได้ลุกขึ้นตอบโต้อย่างดุเดือดว่า “ผมนั่งฟังมานานแล้ว ความจริงผมกับพล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน แต่ท่านไม่เคยให้เกียรติผมเลย ท่านกับผม ก็แต่งงานวันเดียวกัน แต่วันนี้ไม่ถือว่าเป็นรุ่นพี่ผมท่านบอกว่า ท่านจะชักปืนยิงผม ถ้าท่านชักปืนยิงผมตั้งแต่วันนั้น ท่านก็ติดคุก เหรียญรามาที่ท่านได้ ผมก็ได้ แต่ผมไม่เคยคุย ไม่เคยไปแอบอ้าง ท่านพูดจาหยาบคาย อวดอ้างอำนาจ ท่านไปทบทวนตัวของท่านเอาเอง” จนทำให้วลี “ตัดพี่ตัดน้อง” โด่งดังในโลกโซเชียล จนติดเทรนด์ทวิตเตอร์ อย่างไรก็ตาม หากเปรียบสมรภูมิแถลงนโยบายรัฐบาลเป็นสนามรบ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ถือว่าผ่านสมรภูมินี้ไปได้ แม้จะไม่ สะบักสะบอม แต่ก็ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย สมรภูมิแถลงนโยบายรัฐบาล จึงเปรียบเหมือน “สนามซ้อม” ให้กับพล.อ.ประยุทธ์ เพราะแน่นอนว่า นับจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะเลี่ยงไม่เข้าประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อตอบกระทู้ถามของส.ส.ไม่ได้ และยังจะต้องเผชิญกับความเขี้ยวของนักการเมืองอาชีพ อีกหลากหลายรูปแบบ ดังนั้นทีมที่ปรึกษาต้องเก็บทั้งคำติ และคำชม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎ กติกา มารยาทต่างๆ วิเคราะห์และสังเคราะห์ให้กับพล.อ.ประยุทธ์ อย่างตรงไปตรงมา เพราะวันนี้ถือว่าเดินมาถูกทางแล้ว ในเส้นทางของนักการเมืองเต็มตัว ที่เป็นเรื่องธรรมดาของนักรบย่อมมีรอยแผล