เรียนกองบรรณาธิการ นสพ.สยามรัฐ คอลัมน์ คุณชัช เตาปูน ตอบจดหมาย ได้อ่านข่าวเจอทางกรมการขนส่งทางบก (ขบ.)ร่วมกับ ขนส่ง จำกัด(บขส.) ทหาร ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ออกตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถตามมาตรฐานความปลอดภัยที่สถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดรถ 229 แห่งทั่วประเทศเมื่อวันก่อน ฟังดูแล้วก็หนาวๆ ทีเดียว สำหรับมาตรฐานความปลอดภัยในระบบขนส่งสาธารณะ เพราะผลการตรวจระหว่างวันที่ 24 ม.ค.-4 ก.พ.ที่ผ่านมา จากการตรวจรถจำนวนถึง 164,431 คัน พบรถที่มีข้อบกพร่อง 10,345 คัน ซึ่งมีข้อบกพร่องที่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยในการขนส่งผู้โดยสาร และมีการสั่งให้เปลี่ยนรถทันทีถึงจำนวน 685 คัน เห็นทางกรมการขนส่งทางบกระบุว่า ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบก็คือเป็นเรื่องของอุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบถ้วน, กระจกร้าว, สภาพยาง, ถังดับเพลิง ซึ่งผู้ประกอบการต้องนำรถคันใหม่มาเปลี่ยน เพื่อให้บริการได้อย่างปลอดภัยทันที โดยต้องไม่ส่งผลกระทบในการเดินทางของประชาชน มาตรการนี้ถือว่า ดีมากทีเดียว ขอให้ผู้บริหารได้ออกมาตรวจตราด้วยตัวเองอย่างนี้เข้มงวดต่อไปเรื่อยๆ เดือนละ 1-2 ครั้ง อย่าได้ปล่อยปละละเลย เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว ก็ยากที่จะแก้ไขปัญหาความไม่ปลอดภัยในชีวิตผู้โดยสารที่ใช้บริการรถสาธารณะต่างๆได้อย่างยั่งยืน ตราบใดผู้ประกอบการรถสาธารณะเหล่านี้ยังเห็นแก่ตัว ไม่มีการปรับปรุงการบริการ หรือคุณภาพของรถโดยสารหรือแม้กระทั่งการเคร่งครัดในระเบียบวินัยของคนขับ หรือทำให้คนขับมีความรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของผู้โดยสารได้สักที หากขืนยังปล่อยปละเช่นนี้ไปเรื่อยๆ คนขับสูงอายุ สายตาสั้น หรือสายตายาว หรือสายตาบกพร่องต่างๆ หรือมีโรคประจำตัวใดๆ หรือไม่ ทางภาครัฐควรจะมีการจัดแพทย์สาธารณสุขเข้ามาตรวจอย่างเคร่งครัดไม่ใช่ดูเพียงแต่เรื่องของคุณภาพรถว่าได้มาตรฐานความปลอดภัยหรือไม่เพียงอย่างเดียว เพราะคนขับขี่รถโดยสารถือเป็นหัวใจสำคัญทีเดียวซึ่งภาครัฐจะต้องมีการคัดกรองและตรวจสอบในการออกใบอนุญาต ขับขี่หรือแม้แต่ทำหน้าที่เป็นสารถีขับรถรับส่งผู้โดยสารวันๆหนึ่งเป็น 1-2 เที่ยวนับเป็นร้อยกว่าชีวิตได้ จำเป็นต้องได้คนขับขี่ที่สุขภาพแข็งแรง มีระเบียบวินัยในการขับขี่ และมีความพร้อมในเรื่องของสุขภาพกายและสุขภาพจิตด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้สถานประกอบการรถตู้รถทัวร์หรือรถบัสและรถสาธารณะต่างๆ คิดจะเอาใครผู้ใดมาขับขี่รถได้ตามอำเภอใจนั้นคงไม่ได้ เพราะต้องคิดคำนึงถึงผู้โดยสารหลายสิบหลายร้อยชีวิตในแต่ละวันที่ต้องฝากผีฝากไข้เอาไว้กับผู้ขับขี่รถสาธารณะเพียงคนคนเดียวนั้น มีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บล้มตายมากเพียงใด เพราะฉะนั้น หากได้คนที่ไม่มีวินัยในเรื่องของการจราจร หรือมีสุขภาพจิตและสุขภาพกายไม่แข็งแรง มีอาการหลับใน หรือชอบดื่มสุรา หรือยาเสพติดและพักผ่อนน้อย อย่างนี้ก็ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะเวลาเกิดเหตุขึ้นแล้ว ผู้โดยสารจำนวนนับสิบนับร้อยต้องมาบาดเจ็บล้มตายเป็นข่าวใหญ่หน้าหนังสือพิมพ์ อย่างโศกสลด เห็นจะไม่ถูกต้องเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นอยากจะฝากไปถึงกรมการขนส่งทางบกและทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องได้โปรดเข้ามาเอาจริงเอาจังกับการดูแลปัญหาทำนองเช่นนี้อย่างเข้มงวดในเรื่องนี้ด้วยเถอะ อ้อ! เห็นด้วยกับที่กรมการขนส่งทางบกได้นำมาตรการตรวจจับความเร็วรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกด้วยกล้องเลเซอร์ และผ่านระบบ GPS Tracking มาใช้นะครับ เพื่อจับความเร็วรถที่วิ่งบนท้องถนนเร็วเกินกว่า ก.ม. กำหนดเสียทีรวมไปถึงกับมาตรการในการจัดหน่วยเคลื่อนที่ออกตรวจสอบการใช้ความเร็วของรถ ตาม พ.ร.บ.การขนส่งทางบก ด้วยกล้องเลเซอร์บนถนนสายหลักและสายรองที่มุ่งหน้าออกจากกรุงเทพมหานคร หากหน่วยงานรัฐลงมือเอาจริงเอาจังกันอย่างเต็มที่ในเรื่องนี้ด้วยแล้ว ก็เชื่อว่า จะลดปัญหาอุบัติเหตุบนท้อนถนนลงไปได้มากมายทีเดียวในแต่ละปี หากทางการใส่ใจดูแลและเอามาตรการลงโทษผู้กระทำผิดในการขับขี่มาใช้อย่างเป็นทางการและต่อเนื่องสักที เชื่อว่า คนไทยทุกคนคงให้การสนับสนุน นอกเหนือจากการใช้ตำรวจจราจรจับปรับผู้กระทำผิดกฎหมายจราจรเพียงอย่างเดียว ซึ่งมันคงไม่ได้ประสิทธิภาพเหมือนดังที่กล่าวมาข้างต้น ก็คงจะขอฝากแง่คิดไว้แต่เพียงเท่านี้ ควรมิควร ได้โปรดพิจารณาด้วยเถอะครับ ขอบพระคุณอย่างสูง หนึ่งในผู้ใช้รถใช้ถนน เรียนคุณผู้ใช้นามปากกา "หนึ่งในผู้ใช้รถใช้ถนน" ขออนุญาตตอบจดหมายของคุณแทนนะครับเวลานี้อุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะเกิดขึ้นแทบจะถี่และบ่อยครั้งในแต่ละวัน เวลาเกิดเหตุครั้งหนึ่งก็มักจะมีผู้บาดเจ็บและล้มตายมากทีเดียวซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าสะเทือนใจนะครับ สำหรับทายาทที่ต้องมามีอันสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของตนเองไปจากคราวเคราะห์ดังกล่าว เวลานี้ทางหน่วยงานรัฐต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนคงกำลังหัวหมุนไปตามๆ กัน สำหรับการหามาตรการรองรับความปลอดภัยออกมาดูแลพี่น้องประชาชนในระหว่างการเดินทางในเทศกาลสงกรานต์กันอยู่ ซึ่งก็คงต้องติดตามกันดูครับว่าจะมีมาตรการอะไรดีๆ ออกมาดูแลด้านความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนกันบ้างครับ สุดท้ายนี้ เอาเป็นว่า ผมนำจดหมายของคุณมาลงให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาอ่านดูกันเองก็แล้วกันนะครับ ด้วยรักและนับถือ เจริญชัย อุดมพาณิชวงศ์ "เวลาเกิดเหตุครั้งหนึ่งก็มักจะมีผู้บาดเจ็บและล้มตายมากทีเดียว ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าสะเทือนใจนะครับ สำหรับทายาทที่ต้องมามีอันสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของตนเองไปจากคราวเคราะห์ดังกล่าว เวลานี้ทางหน่วยงานรัฐต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนคงกำลังหัวหมุนไปตามๆกัน สำหรับการหามาตรการรองรับความปลอดภัยออกมาดูแลพี่น้องประชาชนในระหว่างการเดินทางในเทศกาลสงกรานต์กันอยู่ ซึ่งก็คงต้องติดตามกันดูครับว่า จะมีมาตรการอะไรดีๆ ออกมาดูแลทางด้านความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนกันบ้างครับ"