ขอถือโอกาสนี้ ให้พร ให้ท่านมีกำลังใจ ความมั่นใจ และความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้ได้ตามคำถวายสัตย์ปฏิญาณ ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์สุขและความมั่นคงของประเทศชาติและประชาชน งานใด ๆ ก็ต้องมีอุปสรรค งานใด ๆ ก็ต้องมีปัญหา เพราะฉะนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องแก้ปัญหาและเข้าหางาน เพื่อให้การบริหารประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามสถานการณ์ โดยแก้ไขให้ตรงเป้า ตรงจุด และมีความเข้มแข็ง อดทน ก็ขอให้คณะรัฐมนตรีและรัฐบาลได้มีกำลังใจ มีพลังที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยดี ด้วยความถูกต้องต่อไป" ในหลวง ทรงพระราชทานพระราชดำรัส แก่ ครม.ชุดใหม่ รูปแบบการปกครองของประเทศไทย ตามบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญ กำหนดเอาไว้ว่าเป็น ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สถาบันพระมหกษัตริย์ถือเป็นสถาบันหลักของชาติ ทรงเป็นทั้งศูนย์รวมใจและเป็นมิ่งขวัญ ของเหล่าพสกนิกร ด้วยน้ำพระทัยและความห่วงใยที่พระมหากษัตริย์ ทรงมีต่อประชาชนคนไทยทุกหมู่เหล่า ทุกสาขา อาชีพ ย่อมนำมาซึ่งความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ในทุกรัชกาลที่ผ่านมา ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีทุกยุค ทุกสมัยต่างรับเอาพระบรมราโชวาท ตลอดจนพระราชกระแสที่ทรงประทานด้วยความห่วงใย รับใส่เกล้า ใส่กระหม่อมถือปฏิบัติสืบมา ทั้งนี้เมื่อวันที่ เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลา 17.45 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งใหม่ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ โอกาสนี้ พระราชทานพระราชดำรัส แก่คณะผู้มาเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย ความว่า " ขอถือโอกาสนี้ ให้พร ให้ท่านมีกำลังใจ ความมั่นใจ และความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้ได้ตามคำถวายสัตย์ปฏิญาณ ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์สุขและความมั่นคงของประเทศชาติและประชาชน งานใด ๆ ก็ต้องมีอุปสรรค งานใด ๆ ก็ต้องมีปัญหา เพราะฉะนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องแก้ปัญหาและเข้าหางาน เพื่อให้การบริหารประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามสถานการณ์ โดยแก้ไขให้ตรงเป้า ตรงจุด และมีความเข้มแข็ง อดทน ก็ขอให้คณะรัฐมนตรีและรัฐบาลได้มีกำลังใจ มีพลังที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยดี ด้วยความถูกต้องต่อไป" พระราชดำรัสที่ทรงพระราชทานให้ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ครั้งนี้ ล้วนนำมาซึ่งความปลาบปลื้ม ในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ต่อมาพล.อ.ประยุทธ์ ได้เปิดเผยถึงความปลาบปลื้ม ว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดไม่ได้ ซึ่งทุกคนปลื้มปีติ ที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เข้าถวายสัตย์ในวันนี้ พร้อมทั้งระบุว่า ทุกคนได้ถวายสัตย์ฯว่า จะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเพื่อประเทศชาติและประชาชนต่อไป พระองค์ท่านได้พระราชทานกำลังใจให้ครม.ทั้งหมดทำงานได้ดีอย่างที่ตั้งใจไว้ ทำให้ทุกคนปลาบปลื้ม ซึ่งหลังจากนี้จะมีการประชุมเพื่อทำความเข้าใจ "ผมยินดีที่ทุกคนมาช่วยงานแบบนี้ ผมยินดีจริงๆ จะได้ไม่มีปัญหากันต่อไปในอนาคต ผ่านมามีปัญหากันอยู่บ้าง จะด้วยความเข้าใจหรือด้วยเจตนาดีก็ตาม แต่เราได้พิสูจน์แล้วว่าเราได้เดินหน้าประเทศมาถึงวันนี้ได้รัฐบาลใหม่อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นผมคิดว่าสิ่งที่เราต้องเตรียมการกันต่อไปคือการแถลงนโยบายและการจัดทำพรบ.งบประมาณ ซึ่งจะมีการหารือกันในวันนี้เพื่อให้เดินหน้าไปสู่ความเรียบร้อย ประเทศชาติหยุดไม่ได้จะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม แต่เราต้องยุติปัญหาบางปัญหาที่ไม่จำเป็นออกไปให้ได้บ้าง และสร้างความรักความสามัคคี ประเทศชาติให้มากยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งหลักชัยของเราคือชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ รวมถึงประชาชนด้วย" พล.อ.ประยุทธ์ เปิดใจกับสื่อ เมื่อภายหลังนำคณะรัฐมนตรี กลับจากการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ ฯ (16 ก.ค.2562) พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงพระราชทานแก่ครม.ยังถือเป็น "กำลังใจสำคัญ" ต่อครม.ชุดใหม่ ที่จะได้ปฏิบัติภารกิจ ภายหลังจากที่เสร็จสิ้นการแถลงนโยบายรัฐบาลลงไปแล้ว นอกจากนี้ รัฐมนตรีที่ได้เข้าถวายสัตย์ฯ ในครั้งนั้น ยังได้ถ่ายทอดความรู้สึก ด้วยความปิติและความจงรักภักดี เช่นกัน คุณหญิงกัลยาโสภณ โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยต่อสื่อ ถึงกระแสพระราชดำรัสว่า ในหลวงทรงให้กำลังใจให้ทำหน้าที่ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และทำงานให้เกิดผลสำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้เพื่อประเทศชาติประชาชน ซึ่งพวกเราทุกคนก็ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณและน้อมรับกระแสพระราชดำรัส "สมศักดิ์ เทพสุทิน" รัฐมนตรีว่การกระทรวงยุติธรรม เปิดใจว่า ในหลวงทรงมีกระแสพระราชดำรัสดีมาก ครบถ้วนกระบวนความ ซึ่งครม.พร้อมรับสนองพระบรมราชโองการ ขณะที่ "ประภัตร โพธสุธน" รมช.เกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสต่อครม.ว่า ขอให้ทุกคนเข้มแข็ง ทุกอย่างมีอุปสรรค ทุกอย่างก็มีปัญหา ทุกคนต้องช่วยกันแก้ไขและขอให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง รายงานพิเศษ เรื่อง : ทีมข่าวการเมือง