ในสภาวะที่ภาพลักษณ์ของนักการเมืองดูไม่ค่อยดีนัก จะเป็นโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แต่การที่มีกลุ่มก๊วนจำนวนมากในพรรคเดียวกัน หรือการมีรัฐบาลผสมหลายพรรค ทำให้การเรียกร้องต่อรองกัน ส่งผลประชาชนเกิดควมเบื่อหน่าย และเสื่อมศรัทธาไปพอสมควร ตั้งแต่ยังไม่ได้ตั้งรัฐบาลอย่างเป็นทางการ ขณะเดียวกัน ในช่วงสุญญากาศ ขบวนการ “เตะตัดขา” ไม่ให้บางคน บางพรรคการเมืองไปถึงดวงดาว ก็มีการเปิดแผลกันออกมาว่า มีปัญหาทุจริต เรียกว่าสาวไส้ให้กากินกันเองจนเสียหา เมื่อฝั่งบริหารยังอีลุกขลุกขลัก แต่ฝั่งของนิติบัญญัติมีสัญญาณที่น่าสนใจ เมื่อ นายชวน หลีกภัย นั่งเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นแบบอย่างความซื่อสัตย์สุจริต และสมถะ สัปดาห์ที่แล้ว นายชวน ได้กล่าวให้โอวาทกับส.ส.500 คน ในงานสัมมนาส.ส. ถึงการใช้สิทธิพิเศษของส.ส. โดยขอให้สมาชิกทุกคนปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม อย่าให้มีปัญหาแบบสภาฯชุดที่ผ่านๆมา โดยได้เตือนเรื่องที่ส.ส.ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเกี่ยวกับปัญหาการไม่ชำระค่าบัตรโดยสารเครื่องบินในการเดินทาง แต่ใช้สิทธิส.ส.เดินทางก่อนล่วงหน้า ทำให้สายการบินต้องทำหนังสือทวงค่าบัตรโดยสารเครื่องบินในภายหลัง ซึ่งอาจกระทบต่อจริยธรรมนักการเมือง ทั้งนี้ค่าบัตรโดยสารเครื่องบินที่ค้างชำระอยู่มีจำนวนประมาณ 5 ล้านบาท บางคนค้างอยู่เป็นหลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งหากดูจากรายชื่อแล้วไม่ได้มีฐานยากจน แต่เข้าใจว่าอาจมองข้ามความสำคัญไปซึ่งเรื่องนี้อาจเป็นปัญหาหากได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี และมีการตรวจสอบเกี่ยวกับคุณธรรมจริยธรรมของนักการเมือง อีกทั้งยังมีปัญหาที่ส.ส.บางคนที่เดินทางไปช้ากว่ากำหนดการแล้วสั่งให้สายการบินรอ ทำให้ผู้โดยสารรอส.ส.แค่คนเดียว ซึ่งไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก เคยมีเหตุการณ์ที่สายการบินปิดการแสดงตนไปแล้ว ไม่สามารถให้ส.ส.ขึ้นเครื่องบินได้ แต่มีการติดต่อหาเลขาธิการสภาฯตอนตี 5 ว่าบินไม่ได้เนื่องจากสายการบินไม่ยอม ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วเพราะหากสายการบินยินยอมรอคนๆเดียวผู้โดยสารอีกเป็นร้อยๆ ก็จะเรียกร้องอย่างเดียวกันนี้บ้าง สายการบินนั้นก็จะอยู่ไม่ได้ ส่วนการใช้สิทธิ์เดินทางรถไฟและรถ บขส. ที่พบว่าส.ส.กับผู้ติดตามเอาสิทธิ์ไปให้คนอื่นใช้แทน ทั้งที่เป็นชื่อของส.ส. ถือเป็นการเอาเปรียบรัฐ และสามารถดำเนินคดีฐานปลอมแปลงเอกสารได้ ดังนั้น สภาฯชุดนี้ทั้ง 500 คนจะต้องไม่เกิดสิ่งนี้ เมื่อสิ้นวาระของสภาฯนี้ คงไม่มีองค์กรเหล่านี้ส่งชื่อมาทวงหนี้เพราะเราไปทำผิดเงื่อนไข ประธานสภาฯ นอกจากนี้ ยังกล่าวเตือนส.ส.ในการเดินทางไปต่างประเทศ โดยระบุว่า ที่ผ่านมามีทั้งภาพบวกและลบ แต่มีภาพลบมากกว่า เพราะไปดูงานแล้วไม่ดูงาน หรือนัดไว้ 15 คน แต่ไปดูงานแค่ 5 อีก 10 คน ไปชอปปิ้ง นัดเจ้าภาพไว้แล้วไม่ไปตามกำหนด สิ่งเหล่านี้ทำให้สถานทูตลำบากใจ ถือเป็นเรื่องกาลเทศะ รวมทั้งเรื่องการแต่งกายที่ไม่ให้เกียรติเข้าภาพด้วย พร้อมกับย้ำให้ระมัดระวังเพื่อไม่ให้ภาพพจน์ของสภาเสียหาย ซึ่งเป็นเรื่องมารยาท เราเห็นว่า เรื่องจริยธรรมของนักการเมืองนั้น เป็นประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก ไม่เพียงกระทบภาพลักษณ์ประเทศ ยังกระทบต่อความศรัทธาของประชาชน ทั้งนี้ไม่เพียงแต่ฝ่ายนิติบัญญัติเท่านั้นที่จะต้องมีการยกระดับ หากแต่ในฝ่ายบริหารเอง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องเข้าไปกำกับอย่างเข้มข้นเพื่อกู้ศรัทธา