ด้วยสภาพการจราจรติดขัดของกรุงเทพมหานคร ทำให้จักรยานยนต์รับจ้างมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการเดินทางสัญจรฝ่าไปในพื้นที่สีแดง ด้วยความที่จักรยายนต์สามารถขับขี่ซอกแซกหาช่องว่างและสามารถทำเวลาได้อย่างรวดเร็วจึงเป็นที่นิยมของคนกรุงเทพฯ ที่ผ่านมา โดยหลักการแล้ววินจักรยานยนต์จะมีการแบ่งพื้นที่ในการรับลูกค้าอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาก็มักมีปัญหาแย่งลูกค้ากันอยู่เนืองๆ จนเกิดวิธีการหลบหลีกที่ผู้ขับขี่วินจักรยานยนต์คู่แข่งอาจเลี่ยงไม่สวมเสื้อวินของตนเอง เพื่อแอบรับส่งผู้โดยสาร ฉะนั้น ปัญหาการแย่งลูกค้ามีมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น เช่นเดียวกับรถแท็กซี่ หรือรถตุ๊กตุ๊กในย่านแหล่งท่องเที่ยว ก็มักเกิดปัญหาทะเลาะวิวาทกันบ่อยๆ แต่อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเหตุทะเลาะวิวาทของกลุ่มวินจักรยานยนต์รับจ้าง ภายในบริเวณซอยอุดมสุข ย่านบางนา เนื่องจากไม่พอใจวินอีกกลุ่มที่มาตั้งวินแย่งลูกค้า จนทำให้มีผู้เสียชีวิต2 ราย คือนายวีรวัฒน์ พึ่งครุฑ อายุ 20 ปี อาชีพขับรถ จักรยานยนต์ส่งสินค้าพัสดุภัณฑ์ของ บริษัทเคอร์รี่ ถูกกระสุนปืนคู่วิวาทเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และนายวัชรรินทร์ งาเฉลา อายุ33 ปี วินจักรยานยนต์ รับจ้างหน้าธนาคารในพื้นที่คู่กรณี เสียชีวิต ความคืบหน้าคดีเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงว่า พนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางนา ได้ร่วมกันขอศาลจังหวัดพระโขนง อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 4 ราย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับเพิ่มเติมได้อีก 1 ราย คือ นายจีระพงษ์ วิบูลย์รัชกิจ ขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.บางนา ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา ทั้งหมดแล้ว 7 ราย โดยสามารถติดตามจับกุมได้ 3 ราย ยังอยู่ระหว่างหลบหนีอีก 4 ราย และ จับกุมผู้ต้องหาที่มีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตอีก 1 ราย ขณะเข้าทำการตรวจค้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ยังคงระดมกำลัง กดดัน ตรวจค้น ติดตามจับกุม ผู้ต้องหาที่ยังคงหลบหนีไปอยู่ และหากข้อมูลการสืบสวนสอบสวนการกระทำความผิดมีความเชื่องโยงไปถึงผู้ใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว พร้อมกันนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล จะมีคำสั่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ในการพิสูจน์ทราบผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ความผิดฐาน ร่วมกันชุลมุนต่อสู้ , ทะเลาะกันในที่สาธารณะฯ และ ทำให้เสียทรัพย์ เป็นต้น โดยดำเนินการสืบสวน สอบสวน ขยายผล จากภาพถ่ายกล้องวงจรปิดและพยานหลักฐานต่างๆ ตลอดจนนำไปสู่การออกหมายและติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะเร่งคลี่คลายคดีและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความไว้วางใจให้กับพี่น้องประชาชน กระนั้น เราเห็นว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นคดีสะเทือนขวัญ เราจึงเรียกร้องให้จับกุมตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม ขณะเดียวกันก็ตั้งข้อสังเกตว่า การกระทำที่อุกอาจนี้ มีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง หรือไม่ และจะมีผู้มีอิทธิพลเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นก็ควรจะได้เวลาล้างบาง