ดร.วิชัย พยัคฆโส [email protected] การทวงคืนเก้าอี้ รมต. จบลงแล้ว เมื่อนายกฯ จัดโผภายในพลังประชารัฐลงตัว แม้ว่าบางคนไม่ค่อยจะสนใจกับเก้าอี้ที่ได้มาสักเท่าไหร่ก็ตาม แต่ทำเพื่อชาติกันเถอะ เพราะเจ้าภาพต้องเสียสละให้พรรคร่วม ผมเห็นว่าน่าจะช่วยกันทำงานเข้าขากันได้ แม้ว่าจะไม่ได้นั่งกระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ก็ตาม เพราะถ้าจับเข่าคุยกันให้รู้เรื่องว่าเอานโยบายนี้ไปบูรณาการจัดทำโดยไม่เกี่ยงงอน คิดว่าทำเพื่อชาติกันสักครั้งได้ไหม? กระทรวงคมนาคมไม่น่าห่วง มีโครงการและงบประมาณอยู่แล้ว 1 ล้านล้านบาท จากโครงการรัฐบาลเก่าอนุมัติหลักการไว้ทั้งรถราง รถไฟฟ้า รถความเร็วสูง และท่าเรือส่งออก คงไม่ต้องทำอะไรที่เป็นโครงการใหญ่ๆมากนัก เพียงแต่ทำอย่างไรการประมูลราคาจะบริสุทธิ์ผุดผ่องไม่ให้ฝ่ายค้านมาไม่ไว้วางใจ ที่น่าห่วงคือคนชั้นกลางที่วางเป้าหมายให้ใช้เงินคนละ 15,000 บาท ให้ไปเที่ยวเมืองรองนั้น กระทรวงการคลังก็มีพร้อมจ่าย เพราะเขาใช้เงินของเขาเอง จะได้เอามาลดภาษีเท่านั้น เพราะแต่ละคนไปแล้วเชื่อว่าต้องใช้จ่ายมากกว่าคนละ 15,000 บาทอยู่แล้ว มองดูฐานะทางเศรษฐกิจในไตรมาส 2 เริ่มไม่สู้ดีนัก ไตรมาส3 เหลืออีก 2 เดือน คือ พฤษภาคม และ มิถุนายน ยังไม่มีตัวเลข เข้าใจว่าคงไม่ได้ตามความหวัง เพราะรัฐบาลมัวแต่จัดตั้งรัฐบาล ส่วนไตรมาส 4 ปรากฏว่างบประมาณทำไม่ทัน สภาพัฒน์ฯ เลื่อนไปเป็นมกราคม เงินจึงหายไปจากระบบ 7-8 หมื่นล้านบาท จึงต้องมีมาตรการรองรับเศรษฐกิจในช่วงนั้น ส่วนผู้มีรายได้น้อยจะขยายเวลาบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปอีก 3 เดิอน เพื่อพยุงการใช้จ่ายและสถานะของคนรายได้น้อย 14.8 ล้านคน ซึ่งถือเป็นคนส่วนใหญ่ที่จะพบแต่ความเดือดร้อน ทำให้รัฐบาลอึดอัดกับการใช้งบประมาณปี 2562 อย่างไรก็ตามยังมีงบกลางฉุกเฉินอีก 5 หมื่นล้านบาท อาจดึงมาใช้ได้อีก ซึ่งถือว่าเป็น “ทุนสำรอง” แต่เงินก้อนนี้มีกฎหมายวิธีการงบประมาณพ.ศ.2561 มาตรา 45 กำหนดให้ใช้เมื่อมีความจำเป็นจริงๆเท่านั้น คาดว่าจะใช้เงินนี้ให้ส่วนงานใช้งบนี้ไปพลางก่อน ย้อนกลับมาดูนโยบายที่ ก.พ.จะเสนอโครงการเกษียณอายุเป็น 63-65 ปี อย่างใดอย่างหนึ่งสำหรับปีต่อไป พบว่าจะเสนอให้หัวหน้าหน่วยราชการ เช่น อธิบดี ปลัดกระทรวง จะไม่ได้รับการพิจารณาต่ออายุ ซึ่งโครงการนี้อยู่ในแผนปฏิรูปประเทศด้านสังคม โดยต้องแก้ไข พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2561 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอีกหลายฉบับ เช่น พ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญ เป็นต้น ข้อมูลจากสำนักงาน ก.พ. พบว่าภาพรวมการจ้างงานภาครัฐมีกำลังคนทุกประเภท 3.22 ล้านคน มากที่สุดคือข้าราชการ 1,871,779 คน รองลงมาคือพนักงานรัฐวิสาหกิจ 304,868 คน ลูกจ้างชั่วคราว 300,527 คน พนักงานจ้าง 246,562 คน พนักงานราชการ 146,099 คน พนักงานกระทรวงสาธารณสุข 107,878 คน พนักงานมหาวิทยาลัย 82,836 คน และองค์กรมหาชน 11,828 คน โดยมีตัวเลขผู้เกษียณในรอบ 10 ปี 391,000 คน หรือปีละ 39,104 คน และในปี 2562 มีอัตราผู้เกษียณที่เป็นข้าราชการ 28,400 อัตรา จัดสรรคืน 27,774 คน และเหลือไว้ส่วนราชการอีก 626 อัตรา โดยปี 2563 มีค่าใช้จ่าย 860,730.32 ล้านบาท ดูแล้วล้วนแต่เป็นงานหนักๆของรัฐบาลชุดนี้ที่ต้องหาเงิน หารายได้จากทางอื่นมาช่วยเช่น รายได้จากการท่องเที่ยว เป็นต้น แต่เชื่อว่าถ้าร่วมกันทำงานเพื่อชาติคงสามารถฟันฝ่าอุปสรรคทางการเงินไปได้ ขอเอาใจช่วยครับ