ปัญหาการจัดตั้งรัฐบาล เรื่องจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีทั้งภายในพรรคพลังประชารัฐที่เป็นแกนนำ และพรรคร่วมรัฐบาลเองยังไม่ลงตัว โผคณะรัฐมนตรีปรากฏออกมาตามสื่อ มีการเปลี่ยนแปลงแทบทุกวัน จนจะเป็นโผครม.รายวัน นั่นมาจากการเคลื่อนไหวต่อรองกันของกลุ่มการเมืองต่างๆ ภายในพรรคพลังประชารัฐเอง และพรรคร่วมรัฐบาล แม้จะเป็นเรื่องปกติ ของการจัดตั้งรัฐบาลเหมือนเช่นในอดีตที่ผ่านมา แต่ก็ต้องยอมรับว่า ความขัดแย้งและบรรยากาศการแย่งชิงนี้ ทอดระยะเวลายาวนานเกินไป ทำให้สังคมเกิดความเบื่อหน่าย ปัจจัยที่ทำให้บรรดากลุ่มต่างๆในพรรคแกนนำ และพรรคร่วมรัฐบาล มีอำนาจในการต่อรองสูง ออกมาเคลื่อนไหวกันอย่างคึกคักนั้น มาจากปัญหาที่เสียงสนับสนุนรัฐบาลปริ่มน้ำ หากขาดไปเพียง 1-2 เสียง ก็อาจทำให้การลงมติร่างกฎหมายสำคัญ โดยเฉพาะในการแถลงนโยบายรัฐบาล หากไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากสภาฯ ก็จะทำให้รัฐบาลต้องพ้นไป จึงไม่แปลกที่จะเห็นได้ว่าพรรคการเมืองขนาดเล็ก ที่มีเสียง 1-2 เสียง ยังออกมาเคลื่อนไหวต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงได้ ทั้งนี้ ทั้งนั้น ในส่วนของกระทรวงที่มีความสำคัญ หรือที่เรียกว่า กระทรวงเกรดเอ ก็เป็นเหตุให้การจัดสรรตำแหน่งยังไม่ยุติ นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้าน คอร์รัปชัน วิเคราะห์เหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดความขัดแย้งแย่งชิงตำแหน่งรัฐมนตรีเข้ามาบริหารในกระทรวงเกรดเอว่า ที่นักการเมืองแบ่งสรรกันอยู่ ไม่ได้แปลว่าต้องมีงบประมาณมากเท่านั้น เห็นได้จากกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีงบประมาณสูงสุดแต่ไม่เป็นที่สนใจ เพราะที่เขาต้องการคือกระทรวงที่ทำให้มี “โอกาส” ได้สิ่งเหล่านี้มากที่สุด 1. “ร่ำรวย” อาจได้โดยตรงจากโครงการที่ลงทุน หรือ ทำให้ธุรกิจของตนได้งาน ได้เงิน 2. “คะแนนนิยม” จากการออกนโยบายรัฐหรือทำโครงการที่โดนใจฐานเสียง บางครั้งอาจใช้บทบาทอำนาจ ใช้เจ้าหน้าที่และงบประมาณหลวงไปทำสิ่งไม่ถูกต้องก็มี 3. “อำนาจ” จากการคุมกลไกรัฐ โดยเฉพาะ ทหาร ตำรวจ มหาดไทยและคลัง 4. “ดูแลพวกพ้อง” ให้ได้ทั้ง ลาภ ยศ สรรเสริญ “พลังงาน” และ “อุตสาหกรรม”เป็นสองกระทรวงที่มีงบประมาณน้อยที่สุด แต่เป็นที่หมายปองที่สุด เพราะมีอำนาจมากแถมยังมีรัฐวิสาหกิจใหญ่ เงินเยอะอยู่ในมืออย่าง ปตท. และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตชาติของเราคงเจริญกว่านี้ถ้านักการเมืองหันมาพูดว่า“อยากบริหารงานกระทรวงที่สร้างอนาคตให้ประเทศได้มากที่สุด” แต่คงยาก เพราะบ้านเราแม้จะมีนักการเมืองที่ตั้งใจสร้างผลงานเพื่อแผ่นดินอยู่บ้าง แต่น้อยนักที่คนดีจะมีโอกาสได้ใช้ความรู้ความสามารถบริหารบ้านเมือง สิ่งที่นายมานะวิเคราะห์ไว้เป็นเรื่องจริงส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่ง คือสิ่งที่พรรคการเมืองไปมีพันธสัญญากับประชาชนในช่วงของการรณรงค์หาเสียง เช่นการประกาศว่าจะเข้ามาแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตร บางชนิด ทั้งปาร์ม และยาง หรือ การเดินหน้าเรื่องนโบายเกี่ยวกับกัญชา กระนั้น สิ่งที่นักการเมือง กลุ่มก๊วนต่างๆ และพรรคการเมืองแสดงออกในวันนี้ ทำให้ภาพการเมืองน้ำเน่าในอดีตย้อนกลับมาอีกครั้ง กระทบความศรัทธาเชื่อมั่นของประชาชน ทีมงานของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคงต้องเร่งในการกอบกู้ศรัทธาอย่างหนัก