จากกรณีกระทรวงการต่างประเทศมีหนังสือลับที่สุดถึงนายกรัฐมนตรีกรณีการระงับข้อพิพาทระหว่างไทยกับฟิลิปปินส์ในประเด็นสินค้าบุหรี่นำเข้าซึ่งมีความเกี่ยวพันกับการดำเนินคดีอาญากับบริษัทผู้นำเข้าไทย นับว่าเป็นปัญหาที่มีความซับซ้อนและต้องการคำอธิบายอย่างยิ่ง
รัฐบาลไทยคงต้องการแก้ไขปัญหานี้อย่างรวดเร็วและบรรลุข้อตกลงฉันมิตรเพื่อมิให้เกิดปัญหาด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อการค้าการลงทุนในประเทศไทย และเพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสที่จะถูกตอบโต้ทางการค้ามูลค่าหลายหมื่นล้านบาท
แต่กรณีพิพาทดังกล่าวก็มีความซับซ้อนเกี่ยวพันกับหลายปัจจัย เชื่อมโยงกับการดำเนินคดีอาญากับบริษัทผู้นำเข้าสินค้าบุหรี่จากฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นกรณีกฎหมายในประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นประเด็นการเมืองเกี่ยวกับหลายรัฐบาล หลายรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบ เพราะมีการนำประเด็นข้อพิพาทนี้ไปโจมตีและตอบโต้ทางการเมืองและยังมีแรงกดดันจาก NGO สายสุขภาพที่ยกเหตผลเรื่องสุขภาพและไม่ต้องการเห็นการดำเนินการใดๆ ที่จะเป็นผลดีต่อบริษัทผู้นำเข้าทำให้ข้อพิพาทดังกล่าวยืดเยื้อมากว่า 10 ปี
จากผลคำตัดสินขององค์การการค้าโลก (WTO) ที่ให้ไทยเป็นฝ่ายแพ้คดีนี้ถึง 2 ครั้ง 2 คราแล้ว ประเมินโอกาสที่ไทยจะชนะคดีในเวทีโลกมีน้อยเต็มที ทำให้กระทรวงการต่างประเทศซึ่งมีหน้าที่ในการพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของประเทศไทยต้องนำเสนอหนทางยุติข้อพิพาทเพื่อประโยชน์ของประเทศไทยโดยส่วนรวม ก่อนที่จะไม่สามารถเจรจาหาทางออกได้และอาจถูกตอบโต้ทางการค้าและสูญเสียความเชื่อมั่นต่อระบบศุลกากรของไทย
ทางออกของเรื่องนี้คือรัฐบาลต้องทำเรื่องนี้ให้กระจ่างชัดโปร่งใส โดยชี้แจงให้สังคมประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้ทราบถึงข้อดี ข้อเสียที่ประเทศไทยจะดำเนินการหรือไม่ดำเนินการอย่างไร เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องและเข้าใจการตัดสินใจของรัฐบาล ขณะเดียวกับรัฐบาลก็ต้องมีความกล้าหาญในการตัดสินใจเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติเอาไว้เป็นหลักและไม่ตกอยู่ภายใต้คำขู่ แรงกดดัน หรือผลประโยชน์ของกลุ่มหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
การไม่ตัดสินใจหรือซื้อเวลาออกไปทั้งที่รัฐบาลรู้อยู่ว่าความเสียหายจะเกิดกับประเทศอย่างไรก็ถือเป็นการบกพร่องต่อหน้าที่อย่างร้ายแรงหากประเทศไทยต้องแบกรับกับภาระและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นมาภายหลังซึ่งรัฐบาลต้องมีส่วนในการรับผิดชอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การตัดสินใจโดยการพิจารณาข้อมูลรอบด้านและชี้แจงให้สังคมเข้าใจด้วยความโปร่งใสจะเป็นเกราะกำบังให้รัฐบาลได้ดีที่สุด เพราะเมื่อประชาชนและสังคมมีความเข้าใจแล้วปัญหาต่างๆก็อาจคลี่คลาย แม้ไม่อาจทำให้ทุกฝ่ายพึงพอใจ แต่สุดท้ายประเทศชาติจะได้รับประโยชน์มากที่สุด อยู่ที่รัฐบาลจะมีความกล้าหาญเพียงพอหรือไม่ในการตัดสินใจในเรื่องนี้