สถาพร ศรีสัจจัง
คิดแบบชาวบ้านคนไทยตาดำๆ ที่เคยมีประสบการณ์อยู่ในยุคแห่งความขัดแย้งทางอุดมการณ์ครั้งเมื่อย้อนหลังไปสัก4-5 ทศวรรษก่อนแล้ว อดตั้งคำถามขึ้นมาในใจเสียไม่ได้
หรือเรากำลังตกอยู่ในภาวะที่เรียกว่า “อยู่ระหว่างเขาควาย” อีกครั้งหนึ่งแล้ว?
กาลครั้งนั้นชาวบ้านในชนบทไทยมักต้องตกอยู่ระหว่าง “อำนาจรัฐ” 2 อำนาจ คืออำนาจรัฐที่มี “รัฐบาลไทย” ที่ “ชอบด้วยกฎหมาย” ทั้งที่มาจากระบบเลือกตั้งและระบบยึดอำนาจรัฐประหาร(ที่น่าจะมีพอๆกัน) กับ “อำนาจรัฐแดง” ซึ่งมีสิ่งที่เรียกว่า “พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย” (ซึ่งก็คือคนไทยกลุ่มหนึ่งนั่นแหละ ไม่ใช่ญวนแกว หรือ ชาวต่างด้าวท้าวต่างเมืองตามคำโฆษณาชวนเชื่อของ “รัฐบาลไทย” ยุคนั้นแต่อย่างใด)
ชาวบ้านในหมู่บ้าน ตำบล อำเภอหรือจังหวัด ที่โชคร้ายต้องตกอยู่ในเขตพื้นที่มีความขัดแย้งแบบที่เรียกว่า “อยู่ระหว่างเขาควาย” ในครั้งนั้น ต้องเผชิญชะตากรรมที่เรียกว่า “ต้องถึงแก่ชีวิต” และที่ถึงขนาด “ต้องตายยกหมู่บ้าน” ก็มี เรื่องถูกเผาบ้านเรือนทิ้งทั้งหมู่บ้านนั้นก็มีจนเป็นเหมือนเรื่องธรรมดา นี่ไม่ใช่เรื่องพูดเล่น !
เป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นจริงๆในประเทศที่คนในรัฐบาลแทบทุกรัฐบาลมักชอบประกาศว่า เป็นประเทศที่ “ศาสนาพุทธได้สถิตเสถียรอย่างมั่นคงสถาวรมาอย่างยาวนาน” แบบไม่อายปาก(ที่กินไม่เคยรู้อิ่ม)และมือที่เปื้อนเลือด!
เหตุการณ์ประเภท “ล้อมฆ่าในวัด” (หรือข้างวัด) อย่างเหตุการณ์ที่เรียกว่า “วันฆ่านกพิราบ” ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ปี พ.ศ. 2519 ที่ยังคงเป็นแผลเรื้อรังอยู่ในหัวใจหลายใครที่เป็นคนรุ่นนั้นมาจนบัดนี้ ก็มักเกิดขึ้นเสมอๆ!
การที่ชาวบ้านหรือราษฎรต้องตกอยู่ในสภาวะ “อยู่ระหว่างเขาควาย” ที่แทบขยับตัวไปทางไหนไม่ได้ เพราะขยับไปทางซ้ายก็โดนแทง ขยับทางขวาก็โดนฟัน นั้นไม่ใช่เรื่องสนุกนัก ผู้ที่เคยผ่านชะตากรรมเช่นนั้นมาย่อมจะรู้ดี
การแย่งชิงเพื่อให้ได้อำนาจรัฐไปเป็นเครื่องมือของกลุ่มพวกตน(จะเพื่ออะไรละ?)ภายใต้คำขวัญ
“ประชาธิปไตยจงเจริญ!” นั้น ที่จริงแล้วก็อาจไม่ต่างไปจากขบวนการของโจรเรียกค่าไถ่ธรรมดาๆ!
เพราะนั่นคือการทำให้ประชาชนหรือชาวบ้านตาดำๆต้องกลายเป็นเหมือน “ตัวประกัน” !
สถานการณ์บ้านเมืองไทยหลังการเลือกตั้งใหญ่ พ.ศ. 2562 ฝีมือการจัดการตาม “โรดแมป” ของคณะ คสช.ในยามนี้หรือจะไม่ใช่การทำให้ราษฎรผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต้องตกอยู่ในสภาวะ “อยู่ระหว่างเขาควาย” เหมือนที่เคยเป็นมาในอดีต?
หรือสภาพของชาวบ้านตอนนี้จะไม่เหมือนกับตัวประกัน?
ผ่านมาแล้วเกือบ 2 เดือน การเลือกตั้งภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่เอี่ยม ล่าสุดก็ยังไม่สามารถไขคำตอบให้ชาวบ้านโล่งใจตาแจ้งเลยว่าจะออกหัวหรือออกก้อย รัฐบาลของพวกเขาจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร?
จะมีใครเป็นผู้นำขบวนในการจัดการประเทศ (เรียกว่า “รัฐบาล”) จะเป็นคนจากกลุ่มที่ถูกเรียกว่า “ทุนนิยมสามานย์” หรือจะมาจากกลุ่ม “เผด็จการหน่อมแน้ม” (ที่อีกฝ่ายประณามว่าอยู่ในคาถากำกับของ “ทุนนิยมผูกขาดรายใหญ่”)
ความอึดอัดวังเวงเช่นนี้สร้างบรรยากาศอะไรให้ประเทศบ้าง?
หรือชาวบ้านราษฎรอย่างเราๆจะต้องอดทนต่อไปเรื่อย จะไม่ลอง “คิดกันเองรวมพลังกันเอง” เพื่อหาทางทะลวงฟันเดินฝ่าออกจากพื้นที่ “ระหว่างเขาควาย” ดูสักครั้ง เพื่อคืนชะตากรรมการเลือกให้แก่ตัวเองบ้างหรือ?
หรือจะต้องพึ่งองค์พระสยามเทวาธิราชเช่นเคย?
หรือจะต้องรอ “อัศวินม้าขาว” มาช่วย ตามคตินิยมดั้งเดิมของการเมืองไทยที่มีมาแต่ไหนแต่ไรนั่นอยู่อีก?