ผู้นำมหาวิทยาลัยยุคใหม่

แก้วกานต์ กองโชค เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2560 เว็ปไซด์มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้รายงานประกาศสภามหาวิทยาลัยนเรศวร เรื่อง ผลการสรรหาผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ว่า “ด้วยที่สภามหาวิทยาลัยนเรศวร ในการประชุมครั้งที่ 227 ( 2 / 2560 ) เมื่อวันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2560 ได้พิจารณาผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวรแล้ว ได้มีมติเสนอชื่อให้ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กาญจนา  เงารังษี เป็นผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร และให้ดำเนินการเสนอต่อกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อดำเนินการโปรดเกล้าแต่งตั้งบุคคลดังกล่าวเป็นอธิการบดีนั้น” ประกาศ ณ วันที่ 14 มกราคม 2560 ลงนามโดย ศาสตราจารย์ นพ.ดร.กระแส  ชนะวงศ์ นากยกสภามหาวิทยาลัยนเรศวร”จนมีการร้องศาลปกครองเกี่ยวกับกระบวนการสรรหาอธิการบีดว่า ไม่ถูกต้อง ชอบธรรม ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กาญจนา เงารังษี นั้นเคยเป็นรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการในช่วงเวลาที่ ศาสตราจารย์ ดร.สุจินต์ จินายน ดำรงตำแหน่ง อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) อธิการบดีคนที่ประกาศว่า จะผลักดันให้มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นมหาวิทยาลัยระดับแนวหน้าในกลุ่ม 10 อันดับแรกของประเทศ ภายในปี พ.ศ. 2560 คำประกาศก็คือคำประกาศ ซึ่งต่างกับความเป็นจริงในปัจจุบัน นั่นจึงทำให้เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2559 ประชาคมชาวมหาวิทยาลัยนเรศวร อ.เมืองพิษณุโลก ได้มีการตั้งคำถามถึงกระบวนการสรรหาอธิการบดีคนใหม่กันอย่างมาก  โดยเฉพาะทางสื่อโซเซี่ยลมีเดีย มีการตั้งเพจ จับตาสรรหาอธิการบม.นเรศวร 60 ซึ่งนำการเขียนอธิยายเรื่องราวที่มาที่ไปต่าง ๆ จนนำมาสู่กระบวนการสรรหาครั้งใหม่ล่าสุด ที่สภามหาวิทยาลัยนเรศวร กำหนดให้มีการประชุมสภามหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อสรรหาอธิการบดีคนใหม่ แทนศ.ดร.สุจินต์  จินายน ที่จะครบวาระในวันที่ 19 มกราคม 2560 ศ.ดร.รัตนะ  บัวสนธ์ หนึ่งในผู้ที่ได้รับการสรรหาเข้ามาในรอบสุดท้าย 3 คน จากกระบวนการสรรหารอบแรกบอกกับสื่อมวลชนท้องถิ่นว่า “ได้ไปฟ้องศาลปกครองเพื่อให้คุ้มครองชั่วคราว ยุติการสรรหาอธิการบดีม.นเรศวร ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 มกราคม เนื่องจากเห็นว่า สภาฯทำผิดกฎข้อบังคับของมหาวิทยาลัย ที่ผ่านมาการ กระบวนการสรรหาอธิการบดี ที่พิจารณาจาก 11 ราย เหลือ ผู้สมควร 3 ราย ก็ได้ประกาศออกไปแล้ว ถ้าไม่ถูกต้องก็ควรดำเนินการในขั้นตอนนั้น จึงต้องไม่ประกาศผู้ได้รับการพิจาณา 3 ราย นั่นคือ กระบวนการสรรหาอธิการบดี ต้องทำตามข้อบังคับของสภามหาวิทยาลัย ที่ผ่านจากกระบวนการสรรหา แล้วนำเสนอให้สภามหาวิทยาลัยพิจารณา แต่ขณะนี้มีการออกข้อบังคับใหม่ ให้สภามหาวิทยาลัยเป็นผู้พิจารณา กระบวนการสรรหาม.นเรศวร ได้เริ่มดำเนินการสรรหารอบแรก คณะกรรมการสรรหาอธิการบดีม.นเรศวร จึงได้นำ 3 รายชื่อ ผู้ที่เหมาะสมให้สภามหาวิทยาลัยพิจารณา แต่สภาฯ ไม่สามารถพิจารณาได้ เนื่องจากการลงคะแนนของสภา ไม่มีผู้ที่ได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภา จึงเริ่มต้นกระบวนการสรรหาใหม่อีกรอบ ในช่วงกลางปี 2559 ปรากฎว่า มีผู้ที่สมัคร และเสนอชื่อ ให้คณะกรรมการสรรหารอบใหม่พิจารณา 11 ราย และคณะกรรมการสรรหาได้พิจารณาเลือกเหลือ 3 ราย เพื่อเสนอให้สภามหาวิทยาลัยพิจารณา ได้แก่ ศ.ดร.รัตนะ  บัวสนธ์ ศ.ดร.ดิเรก ปัทมศิริวัฒน์ และศ.ดร.สมยศ  พลับเที่ยง แต่ปรากฏว่า ก่อนที่จะถึงกระบวนการแสดงวิสัยทัศน์ของ 3 ราย เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2560 กระบวนการสรรหาครั้งนี้ต้องยกเลิกไป โดยสภามหาวิทยาลัยม.นเรศวร ได้ออกประกาศชี้แจงผลการกระชุมสภามหาวิทยาลัย เกี่ยวกับการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทาลัยนเรศวร ทางเว็ปไซด์มหาวิทยาลัยนเรศวร ระบุว่า “ด้วยสภามหาวิทยาลัยนม.นเรศวรได้ประชุมไปเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2560 เพื่อพิจารณาผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีม.นเรศวร ตามที่คณะกรรมการสรรหาม.นเรศวร ได้เสนอชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งจำนวน 3 ราย ให้สภามหาวิทยาลัยพิจารณานั้น กรรมการสภามหาวิทยาลัยได้พิจารณาข้อมูลจากประธานกรรมการสรรหาอธิการบดีม.นเรศวรแล้วพบว่า การให้คะแนนเพื่อเลือกผู้สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นอธิการบดีม.นเรศวรทั้ง 11 รายนั้น มีการลงคะแนนไม่ปกติจากกรรมการสรรหาฯ กรรมการสภามหาวิทยาลัยจึงได้ขอดูผลของการลงคะแนน ของกรรมการสรรหาฯทั้ง 5 ราย มาพิจารณา และได้ลงมติเป็นเสียงส่วนใหญ่ว่า การลงคะแนนของกรรมการสรรหาฯ มีลักษณะไม่ปกติ จึงให้ยุติการพิจารณารายชื่อผู้ที่ได้รับการพิจารณารายชื่อทั้ง 3 ราย จากกรรมการสรรหาฯไว้ก่อน” ลงนามประกาศโดย พลเอกดร.ศิริ  ทิวะพันธุ์ อุปนายกสมามหาวิทยาลัยนเรศวร ทำหน้าที่แทนนายกสภามหาวิทยาลัยนเรศวร ประกาศ ณ วันที่ 10 มกราคม 2560” แต่หลังจากนั้นเพียง 4 วัน สภามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนเรศวร ก็ลงมติเลือก ศาสตราจารย์ ดร.สุจินต์ จินายน ดำรงตำแหน่ง อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร วันที่ 9 มกราคม 2560 ศ.ดร.รัตนะ  บัวสนธ์ จึงไปที่ศาลปกครองจังหวัดพิษณุโลก เพื่อร้องขอให้ศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราวให้ระงับกระบวนการสรรหาอธิบการบดีม.นเรศวร ในวันที่ 14 มกราคม 2560 และขอให้สภามหาวิทยาลัยนเรศวร ถอนประกาศ ของสภามหาวิทยาลัยนเรศวรในเรื่องการสรรหาผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดี และประกาศข้อบังคับมหาวิทยาลัยนเรศวรว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาอธิการบดี ( แก้ไขเพิ่มเติม)  ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 ดูเหมือนว่า เรื่องนี้คงไม่จบง่ายๆ ในขณะที่มหาวิทยาลัยอีกหลายแห่งก็เริ่มกระบวนการสรรหา “ผู้นำมหาวิทยาลัย” คนใหม่ ทั้งมหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยมีแคนดิเดทที่เป็นคนรุ่นเก่าแย่งชิงเก้าอี้ตัวนี้ โดยไม่สนใจว่า อาจารย์รุ่นใหม่คิดเห็นเช่นไร ???