ความวิตกกังวลของฝ่ายรัฐบาลและคณะรักษาความมั่นคงแห่งชาติ (คสช.) กำลังปรากฎขึ้นมาลางๆ เมื่อ “พรรคอนาคตใหม่” ประกาศเตรียมปรับแผนการเล่น จาก เวทีสภาผู้แทนราษฎร ลงไปสู่ “ท้องถนน”
“ ถามว่าทำแบบนั้นถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ ถ้าถูกต้องก็ดำเนินการไป ในส่วนเรื่องของความวุ่นวายนั้นตอนนี้ยังไม่มีอะไร ทุกอย่างยังคงเดินไปตามกฏหมาย ทั้งนี้ยังไม่มีเรื่องการปลุกระดมหรือเรื่องใดๆทั้งสิ้น”
“บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตอบข้อถามสื่อกรณีที่ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อคน.) ระบุว่าถ้าไม่ได้เข้าไปในสภาฯก็จะออกมาเล่นการเมืองนอกสภาฯ
เส้นทางการเดินไปสู่รัฐสภาของ ธนาธร นั้นดูจะเป็นเรื่องยากลำบาก มากขึ้นทุกขณะ เพราะด้วย คุณสมบัติที่กำลังกลายเป็น ปมปัญหา ไม่เพียงแต่จะทำให้ตัวธนาธร มีอันต้องขาดคุณสมบัติ ตามรัฐธรรมนูญไปด้วยเท่านั้น เพราะตำแหน่ง หัวหน้าพรรคของธนาธร ยังอาจส่งผลในทางลบ ในทางร้ายต่อ พรรคให้มีอันต้องยุบพรรคไปด้วย จนเป็นที่มาที่ทำให้ธนาธร ต้องออกมาส่ง “สัญญาณรบ” บนท้องถนน
อย่าลืมว่าผลคะแนนการเลือกตั้งของพรรคอนาคตใหม่ ที่เทใจกันเลือกทั้งพรรคและตัวบุคคล นั้นมีมากกว่า 8ล้านคะแนน ได้กลายเป็น ทั้ง “จุดแข็ง”และ “เงื่อนไข” ที่จะทำให้แกนนำพรรคอนาคตใหม่ ใช้เป็น “อาวุธ” ทิ่มแทงฝ่ายตรงข้ามคือ คสช. ได้อย่างมีน้ำหนักมากที่สุด
วันนี้ ต้องยอมรับว่าแม้คสช. จะมอบภารกิจหน้าที่ในการขับเคลื่อนทางการเมืองให้ “พรรคพลังประชารัฐ” เดินหน้าในการเร่ง “ประสานสิบทิศ” กับทุกพรรค เพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสมหลังการเลือกตั้ง โดยที่คสช.เองพยายาม ลดบทบาทของตัวเองเพื่อไม่ให้กลายเป็น “เป้าโจมตี” ไปมากกว่าที่ผ่านมาก็ตาม
แต่ดูเหมือนว่า พรรคอนาคตใหม่เองประเมินแล้วว่านาทีนี้ “ใคร” คือ “คู่ขัดแย้ง” ตัวจริง แน่นอนว่าย่อมไม่ใช่ทั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ที่กำลังชี้เป็นชี้ตายให้อยู่เวลานี้ หรือแม้แต่พรรคพลังประชารัฐที่เดินสาย “เปิดเจรจา” กับพรรคการเมือง “ขั้วประชาธิปไตย” สร้าง “งูเห่า” ขึ้นมาเพื่อลดทอนกำลังของ “พรรคเพื่อไทย” และพรรคพันธมิตร
เพราะแท้จริงแล้ว อนาคตใหม่ เชื่อว่า คู่ปรับของเขาไม่ใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็นคสช. ดังนั้นจึงต้องไม่แปลกใจที่จะพบว่าทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง “กลุ่มการเมืองภาคประชาชน” ที่ประกาศสนับสนุนธนาธร จึงพากันเคลื่อนไหวเพิ่มน้ำหนักในการต่อรอง อีกรอบด้วยการประกาศ “เซฟธนาธร”
ประหนึ่งว่า พรรคอนาคตใหม่กับคสช.กำลังประกาศศึกหลังเลือกตั้ง กันอีกรอบ !
การจุดประเด็นของธนาธร ผ่านสื่อถึงการปรับแผนการเล่นเตรียมตัวลงมาสู่ “ท้องถนน” ย่อมไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้คสช.และรัฐบาล วางใจได้ โดยเฉพาะหากมีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นมาจริง ย่อมไม่ต่างไปจากการ “ท้าทาย” คสช. ไปพร้อมๆกับการดึงโลกให้ล้อมไทย โดยก่อนหน้านี้ รัฐบาลเองพยายาม “แก้เกม” ของพรรคอนาคตใหม่ที่จับมือกันเล่นกับ “กลุ่มการเมืองภาคประชาชน” ที่ล้วนแล้วแต่เป็น “คนหน้าเดิม” ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามคสช.ทั้งสิ้น
ทั้งนี้การที่ธนาธร และพรรคอนาคตใหม่ จะดึงเกมการเมืองลงสู่สนาม ด้วยการเคลื่อนไหวบนท้องถนนนั้น ยังมีข้อเท็จจริงอีกประการหนึ่งที่ ฝ่ายอนาคตใหม่ไม่ควรลืมเลือนเช่นกันว่า การบริหารสถานการณ์ในท่ามกลางความคุกรุ่นทางการเมืองนั้น ย่อมเป็นได้เหมือน “ดาบสองคม” ใช่ว่าโอกาสที่อนาคตใหม่ จะไม่เพลี้ยงพล้ำ มีหรือจะไม่เกิดขึ้น !