ระยะนี้ ต้องยอมรับว่า การเมืองหลังการเลือกตั้ง มีเรื่องให้ลุ้นกันแทบทุกวัน ในระหว่างที่รอความชัดเจน จาก "คณะกรรมการการเลือกตั้ง" ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ส. วันนี้หลายคนต่างเฝ้ารอคอยคำตอบจาก "ผู้ตรวจการแผ่นดิน" ที่จะมีมติ มีคำวินิจฉัย เรื่องการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 24 มี.ค.นั้นเป็นโมฆะหรือไม่ สืบเนื่องมาจากคำร้องที่ เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ขอให้ส่ง ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ หรือไม่ ! และน่าสนใจว่าการประชุมของผู้ตรวจการแผ่นดินวันนี้ถือเป็นนัดพิเศษ ซึ่งจะมีขึ้นตั้งแต่เวลา09.30 น.เป็นต้นไป จากนั้นคาดว่าจะมีมติออกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งนี้มติของผู้ตรวจการแผ่นดิน ย่อมมีผลให้กลายเป็น " เงื่อนไขสำคัญ" ไปคาบเกี่ยวกับเวลาที่กกต.จะต้องประกาศรับรองการเลือกตั้ง ในวันที่ 9 พ.ค.นี้ เพราะเวลานี้ การเมืองไทยเองก็เผชิญหน้าภาวระ "เดทล็อค" หลังการเลือกตั้งจนแทบขยับกันไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นความชัดเจนในเรื่องตัวเลขที่นั่งส.ส.เขตที่อาจจะโดน "สอย" ไปจนถึงส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ที่ปรากฎว่า "สูตรคำนวณ" ก็ยังไม่ชัดว่าจะคำนวณกันออกมาอย่างไร ในเมื่อต่างฝ่ายต่างตีความกันไปคนละทิศ ละทาง แต่ล่าสุดยังต้องมาลุ้นกันอีกว่าที่สุดแล้วการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.นั้นจะออกหัว หรือออกก้อย ผู้ตรวจการแผ่นดินจะวินิจฉัยว่า เป็นโมฆะ หรือไม่ !? เนื่องจากมติที่ออกมา จะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายประการตามมา ! ขณะเดียวกันยังพบว่า ในระหว่างนี้ บรรดานักการเมืองจากพรรคต่างๆ ต่างพากันมุ่งหน้าไปยังกกต.เพื่อยื่นเรื่องร้องเรียน กันไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งในนาม "ผู้สมัคร" ไปจนถึงในนามองค์กรภาคประชาชน ชื่อต่างๆ เพื่อเดินหน้า ขอถอนตัวออกจากพรรคตัวเองโดยอ้างว่าอุดมการณ์ไม่ตรงกันบ้าง ควบคู่ไปกับการเดินหน้าของแต่ละฝ่ายที่ต่างส่งคนของตัวเอง มาทำหน้าที่เป็น "นักร้อง" ยื่นเรื่องให้มีการตรวจสอบผู้สมัครพรรคต่างๆ ดังนั้นเมื่อสถานการณ์ทางการเมืองกำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น และส่อเค้าลางว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อ หนึ่ง ยังไม่ปรากฎชัดเจนว่า แต่ละพรรคจะได้ที่นั่งส.ส.เท่าใด และ สอง "ใคร" จะรอดจากการถูก "สอย" โดย กกต.กันบ้าง อย่าลืมว่าวันนี้ กกต.รับเรื่องร้องเรียนมาแล้วทั้งสิ้น 415 เรื่อง ยกคำร้องไปแล้วกว่า 200เรื่อง มีมีผู้ได้รับคะแนนสูงสุด 70เขตเลือกตั้ง ที่ถูกร้องเรียน ซึ่งล่าสุด กกต.เพิ่งให้ "ใบส้ม" แก่ผู้สมัครส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งกกต.จะจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ดังนั้นหมายความว่าในวันที่ 9 พ.ค.นี้ กกต.จะต้องประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง 95 เปอร์เซนต์ โดยที่ยังมีเขตเลือกตั้งที่ยังมีปัญหา รอการวินิจฉัย และเมื่อประกาศรับรองไปแล้วอาจจะไปเจอสอยกันภายหลังตามมา ความไม่นิ่งที่เกิดขึ้นเวลานี้ ย่อมส่งผลต่อการตั้งรัฐบาลของทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยหรือพรรคพลังประชารัฐ ที่ต่างยืนประจันหน้า ในฐานะ "ฝั่งตรงข้าม"ไปโดยปริยาย และยังไม่รวมการที่ต้องลุ้นระทึก "ข่าวลือ" ที่สะพัดมาเป็นระลอก ๆ ว่าอาจจะมีรัฐบาลแห่งชาติ ไปจนถึงนายกฯคนนอก กระพือโหมแรงมากขึ้น จนกว่าทุกอย่างจะชัดเจนและสงบลง !