ทีมข่าวคิดลึก
เมื่อรัฐบาล, คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กลไกอำนาจในมือ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เลือกที่จะ"วางเผือกร้อน" ไม่เขี่ย "ไฟ" ให้การเมืองกลับมาปะทุรอบใหม่ แต่เลือกที่จะหันไปเทน้ำหนักกับงานใหญ่ หาทางเร่งคลี่คลายปัญหาใหญ่วิกฤติน้ำท่วมหนักในพื้นที่ภาคใต้หลายจังหวัด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดภาพพี่น้องประชาชน ในพื้นที่ภาคใต้เกือบสิบจังหวัด ต่างเผชิญหน้ากับสถานการณ์น้ำท่วม สภาพบ้านเรือนจมน้ำ ทรัพย์สินเสียหาย มีประชาชนเสียชีวิต มีหลายหมู่บ้านจมน้ำ ขาดการติดต่อจากโลกภายนอก ไฟฟ้าดับ ข้าวปลาอาหารที่มีอยู่เริ่มขาดแคลน แม้ทางการจะพยายามระดมความช่วยเหลือแต่ก็ดูเหมือนว่าจะทำได้ไม่ทั่วถึง และทันท่วงที เนื่องจากเกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้พร้อมกันหลายจังหวัด ความเสียหายขยายตัวเป็นวงกว้าง
แน่นอนว่าด้วยสภาวะเช่นนี้ การรอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐ เอกชนที่เร่งดำเนินการก็อาจยังไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงต้องบอกว่า นาทีนี้พี่น้องประชาชนคนไทยแทบทุกภาคส่วน ทั้งจังหวัดใกล้เคียง ไปจนถึงจังหวัดต่างๆ จึงไม่อาจนิ่งเฉย ต่างร่วมแรงร่วมมือ เพื่อเร่งดำเนินการช่วยเหลือด้วยกันในหลายวิธีการ
เช่นเดียวกันฝ่ายการเมือง นักการเมืองตั้งแต่ระดับท้องถิ่นไปจนถึงระดับชาติ ใครเป็นอดีต ส.ส. ในจังหวัดที่กำลังประสบภัย ก็ไม่อาจทนอยู่นิ่ง แต่ต้องเร่งระดมทุกสรรพกำลังที่จะสามารถทำได้เพื่อช่วยพี่น้องประชาชนในพื้นที่ของตนเองกันอย่างเร่งด่วน ควบคู่ไปกับการทำงานของภาครัฐ และกองทัพที่ถือเป็นกลไกสำคัญด้านความมั่นคง ที่ต้องหันมาส่งกำลังพล ลงไปดูแล ช่วยเหลือประชาชนตามจังหวัดต่างๆ ในภาคใต้ที่กำลังประสบภัยน้ำท่วม
แน่นอนว่าสิ่งที่ประชาชนต้องการรับรู้และสัมผัส ย่อมไม่ใช่เรื่องราวของการเมือง หรือการเลือกตั้ง ที่ถูกจับตากันมาตั้งแต่ก่อนก้าวเข้าสู่ปีใหม่ ว่าจะเลื่อนวันเวลาออกไป หรือจะเดินหน้าไปตามโรดแมปเดิมที่ คสช. กำหนดเอาไว้เพราะเมื่อทุกข์ใหญ่หลวงที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญหน้าอยู่เบื้องหน้าคือปัญหาการดำรงชีวิตอยู่อย่างไร กับสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เส้นทางการคมนาคม ทั้งทางถนน ทางรถไฟไปจนถึงเครื่องบิน มีอันต้องสะดุดไปด้วยกันทั้งสิ้นและในหลายพื้นที่เจ้าหน้าที่ต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ ลำเลียงทั้งยา อาหาร น้ำดื่มและอุปกรณ์ต่างๆ ให้กับประชาชนที่ติดอยู่ตามหมู่บ้านที่ล้อมไปด้วยน้ำ
อย่างไรก็ดี รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ เองย่อมรู้ดีว่าตราบใดที่ทุกข์ร้อนของประชาชนยังไม่ถูกคลี่คลายลงไป โดยเฉพาะปัญหาปากท้อง สถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่ 10 จังหวัดภาคใต้ ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นั่นย่อมหมายถึงผลกระทบที่จะส่งแรงกระแทกไปยังรัฐบาลและตัว พล.อ.ประยุทธ์ อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ทั้งความเชื่อมั่น คะแนนนิยม
สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเสมือน "เงื่อนไข" ที่ คสช. จะสามารถนำมาใช้ในการขับเคลื่อน "งานใหญ่" ที่ว่านั้นย่อมไม่ได้หมายความถึงการเลือกตั้งในวันข้างหน้าเพียงอย่างเดียว !