การตัดสินใจเดินทางกลับเมืองไทย ชนิดปัจจุบันทันด่วนของ "หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่" คือ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ที่เขาเองโพสต์ข้อความผ่านเฟชบุคส่วนตัว เมื่อบ่ายของวันที่ 23 เม.ย. ก่อนหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)จะมีคำวินิจฉัยปมการถือครองหุ้นธุรกิจสื่อ นับเป็นความเคลื่อนไหวที่เร่งเร้าจังหวะการเมืองไทย ให้ร้อนระอุ แข่งกับอุณหภูมิที่กำลังร้อนทะลุปรอท
เพราะทันทีที่ ธนาธร "ส่งสัญญาณ" ด้วยการจงใจระบุว่า ได้รับแจ้งจากเมืองไทยให้รีบเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อมาเตรียมรับมือกับ "สถานการณ์ไม่คาดคิด" ในระหว่างที่ "7เสือกกต." กำลังปิดห้องประชุมพิจารณาคำร้องกรณีให้ตรวจสอบการถือครองหุ้นในบริษัท วีลัค มีเดีย จำกัด ของธนาธร ว่าจะทำให้มีคุณสมบัติขัดต่อรัฐธรรมนูญ หรือไม่
โดยเฉพาะ "กองเชียร์" ที่สนับสนุนธนาธร และพรรคอนาคตใหม่ ที่ต่างเฝ้าติดตาม ผลการพิจารณาจากที่ประชุมกกต. ว่า "มติ" ที่ออกมานั้นจะถึงขั้น "ดับฝัน" ทำให้ธนาธร เดินไปไม่ถึงสภาผู้แทนราษฎร หรือไม่ ?
ในความเป็นจริงแล้วเวลานี้ไม่เพียงแต่สถานการณ์ของหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ที่กำลังเผชิญกับ "สิ่งที่ไม่คาดคิด" เท่านั้น แต่ดูเหมือนว่า บรรดาพรรคการเมืองที่ประกาศตัวเป็น "แนวร่วมฝ่ายประชาธิปไตย" เองกำลังอยู่ในภาวะระส่ำระสาย ไม่แพ้กัน
ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทยเอง ที่เงียบเหงาจนน่า สะท้อนใจ แม้ที่ผ่านมาล่าสุด เพิ่งมีการเรียกประชุมใหญ่ เสร็จสิ้นลงไปก็ตาม แต่ทว่าหลักใหญ่ใจความกลับอยู่ที่ การระดมพลพรรคเพื่อ "เรียกขวัญกำลังใจ" คนกันเอง ในท่ามกลางข่าวลือที่รุมเร้าว่า พรรคเพื่อไทย กำลัง "ทำใจรับสภาพ" การเป็น "พรรคฝ่ายค้าน" ไปเรียบร้อยแล้ว
อีกทั้ง ยังพบว่า ขุมกำลังอย่าง "คนเสื้อแดง" เองที่กระจายกันไปอยู่ในพรรคไทยรักษาชาติ และพรรคเพื่อชาติ มาล่าสุดกลับอยู่ในสภาพที่ต้องเรียกว่า "ต่อกันไม่ติด" !
ยิ่งเมื่อพรรคแนวร่วมฝ่ายประชาธิปไตย ต่างพ่ายแพ้ศึกเลือกตั้ง ผสมปนเปไปกับปัญหาเรื่องการบริหารจัดการ "เงินทองทุนรอน" ที่นำมาใช้ในการเลือกตั้ง จนเกิดเป็นปัญหา "ความขัดแย้ง"ขึ้นในพรรคเพื่อชาติ นำไปสู่การยื่นเรื่องต่อกกต.เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องเงินๆทองๆ จากคนกันเอง
พลังของคนเสื้อแดงที่เคยกล้าแข็ง ก็พลันอ่อนล้าลงอย่างเห็นได้ชัด ควบคู่ไปกับการที่พรรคเพื่อไทย ซึ่งแม้วันนี้จะถือเป็นพรรคที่ได้ส.ส.เขตมากที่สุดคือ 137 เสียง แต่กลับยืนอยู่บนสถานะ "พรรคแกนนำตั้งรัฐบาล" ที่เปราะบางมากที่สุด
นอกจากนี้ยังไม่นับรวมกรณีที่มีความเคลื่อนไหว จากฝ่ายการเมืองภาคประชาชน ที่พากันไปยื่นเรื่องร้องเรียนต่อกกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบ ผู้สมัครจากพรรคต่างๆ ว่าจะมีปัญหาเรื่องการถือครองหุ้นธุรกิจสื่อ เช่นเดียวกับในรายของ ธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ด้วยกันอีกหลายราย
สิ่งที่ไม่คาดคิด สำหรับพรรคแนวร่วมฝ่ายประชาธิปไตย กำลังจะเริ่มชัดเจน ก่อนถึงวันที่กกต.จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ในวันที่ 9 พ.ค.นี้ มากขึ้นทุกขณะ !